8 เรื่องในชีวิต ที่ทำให้คุณเสียเงินโดยไม่จำเป็น
มีหลายสิ่งในชีวิตที่คุณจ่ายออกไปโดยที่คุณไม่รู้สึกว่านั่นคือค่าใช้จ่าย อาจจะเพราะมันคือสิ่งจำเป็นที่ต้องจ่าย หรือเพราะมันเป็นจำนวนเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ เลยทำให้คุณคิดว่ามันไม่ส่งผลกระทบต่อการเงินโดยรวมของคุณเท่าไหร่ ซึ่งคุณคิดผิด!! ทุกค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะมากหรือน้อยนั้น ผลต่อสุขภาพการเงินของคุณทั้งสิ้น จะมีเรื่องอะไรบ้าง มาดูกันเลย
1. ของขวัญ
วิธีที่ง่ายที่สุดที่ทำให้คุณเสียเงิน คือการซื้อของขวัญในโอกาสพิเศษต่าง ๆ เช่น การ์ด ดอกไม้ เค้ก ฯลฯ ซึ่งการซื้อของขวัญในทุก ๆ โอกาสที่คุณสามารถนึกถึงได้ มันทำให้ง่ายที่จะทำให้คุณติดนิสัยในการซื้อของขวัญพร่ำเพรื่อ สำหรับโอกาสพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องซื้อของขวัญก็ได้ เช่น วันที่คุณจับมือกันครั้งแรกกับคู่รักของคุณ เป็นต้น และในที่สุดคุณก็ลืมคิดไปว่าการซื้อของขวัญเหล่านี้ อาจจะทำให้คุณเสียเงินไปมากมายโดยที่คุณไม่รู้ตัวและไม่จำเป็น
2. High-tech gadgets
มีคนบางกลุ่มที่ใล่ตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ และต้องมีเอาไว้มาครอบครองตลอดเวลา ซึ่งนั่นแหละค่ะ คือการใช้เงินโดยไม่จำเป็น ถ้าหากคุณไม่ใช่คนที่ทำงานในวงการที่เกี่ยวข้อง ในสมัยนี้แกดเจตต่าง ๆ ออกใหม่กันไม่เว้นแต่ละกัน อายุของโทรศัพท์มือถือแต่ละรุ่นก็สั้นมาก ๆ ปีเดียวก็ออกมาใหม่แล้ว การติดตามนี้อาจจะไม่จำเป็นมากนัก เพราะมันจะทำให้คุณเสียเงินมากเกินไป ในสิ่งที่คุณมีอยู่แล้วและยังใช้การได้ดีอยู่ด้วย ซึ่งอาจจะนำพาไปสู่การเป็นหนี้เป็นสินในที่สุด
3. แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ในสมาร์ทโฟน
เกมและแอพฟรีบางครั้งแม้ว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดฟรี แต่ก็มักจะพยายามขายอะไรบางอย่างให้คุณเพิ่มในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นที่ออกตัวทดลองใช้มาให้ดาวน์โหลดฟรี โดยที่มีคุณสมบัติการใช้งานแบบจำกัด หากต้องการใช้คุณสมบัติท่มากขึ้นก็ต้องซื้อตัวเต็ม หรือเกมต่าง ๆ ที่เปิดให้คุณเล่นได้ฟรี แต่ก็จะมีการขายไอเทมเสริมที่จะทำให้คุณเล่นเกมได้ดีมากขึ้นแยกเอาไว้ พอคุณติดเกมเหล่านั้นก็จะง่ายต่อการคลิกและซื้อไอเทมเสริมต่าง ๆ รู้ตัวอีกที ก็เสียเงินไปหลายบาทแล้ว เพราะฉะนั้น ถ้าคุณไม่อยากคุณก็จะเสียเงินให้กับแอพพลิเคชั่นเหล่านี้โดยไม่จำเป็น มีทางเดียวคือคุณต้องหักห้ามใจตัวเองเอาไว้นั่นเอง
4. การสมัครสมาชิกที่ไม่ได้ใช้
เมื่อสุขภาพกลายเป็น New Year Resolution ของคุณในช่วงปีใหม่ ทำให้คุณสมัครสมาชิกช่องวิดีโอออกกำลังกาย หรือสมัครสมาชิกฟิตเนสแสนแพง แต่ปัจจุบันคุณดูวิดีโอนี้อยู่เพียงสองสามครั้ง พอหายเห่อก็เลิกดู เลิกเข้าฟิตเนส แต่ยังคงจ่ายเงินค่าสมาชิกให้กับบริการเหล่านี้อยู่ทุกเดือนโดยที่คุณไม่รู้ตัว เพราะตัดบัตรเครดิตอัตโนมัตินั่นเอง ในกรณีนี้คุณควรยกเลิกสมาชิกที่คุณไม่ได้ใช้บริการเหล่านั้นเสีย เพื่อจะได้ไม่ต้องเสียเงินไปเปล่า ๆ
5. กาแฟยามเช้า
ผู้คนจำนวนมากดูเหมือนจะใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบในช่วงเช้า หลายคนจึงเลือกเข้าร้านกาแฟราคาแพงเพื่อความสะดวกรวดเร็ว ทั้ง ๆ ที่คุณสามารถเลือกทานกาแฟฟรีในออฟฟิศได้เหมือนกัน ซึ่งหารู้ไม่ว่าพวกคุณกำลังทิ้งเงินของพวกคุณทุกวันไปเป็นจำนวนมากโดยเปล่าประโยชน์ เงินที่คุณจ่ายให้กาแฟแก้วละเป็นร้อยนั่น คุณจ่ายให้กับการตลาดล้วน ๆ เพราะต้นทุนของกาแฟนั้นแก้วละไม่ถึง 30 บาทเลยด้วยซ้ำ
6. การช็อปปิ้งเพื่อความบันเทิง
ห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ได้รับการออกแบบโดยเจตนาเพื่อกระตุ้นการซื้อ จากผู้บริโภคให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้นะคะ ดังนั้นการเดินรอบ ๆ ห้างสรรพสินค้าเพียงเพื่อผ่อนคลาย ก็อาจจะส่งผลให้มีการใช้จ่ายเงินที่คุณไม่ได้ตั้งใจได้ค่ะ เพราะมีเหล่าพนักงานขายที่พยายามนำเสนอขาย และโน้มน้วมใจให้คุณซื้อสินค้าเหล่านั้น ด้วยโปรโมชั่นลดแลกแจกแถมสารพัด ทั้ง ๆ ที่คุณไม่ได้ต้องการมันเลยด้วยซ้ำ
7. การซื้อหนังสือ
คุณอาจชอบซื้อหนังสือเล่มล่าสุด จากผู้ประพันธ์คนโปรดของคุณทันทีที่คุณเห็นร้านหนังสือใช่ไหม หรือไปงานสัปดาห์หนังสือทีไรก็ได้หนังสือกลับมาเป็นตั้ง ทั้งทีมีเวลาอ่านได้แค่ไม่กี่เล่นเท่านั้น แต่คุณทราบไหมคะว่าคุณสามารถอ่านหนังสือออกใหม่ได้ที่ห้องสมุดฟรีหรือ eBook แทน ซึ่งราคาหนังสือใน eBook จะมีราคาที่ต่ำกว่าหนังสือที่เป็นเล่ม เนื่องจากมีต้นทุนน้อยกว่า และถ้าคุณอ่าน eBook คุณก็ไม่จำเป็นต้องเก็บหนังสือไว้หลังจากที่คุณอ่านให้รกบ้านอีกด้วย แต่ข้อดีก็ยังมีอยู่ คือคุณสามารถหนังสือที่คุณอ่านแล้ว เพื่อเอามาเป็นทุนในการซื้อหนังสือเล่มใหม่ค่ะ
8. ซื้อของแบรนด์เนม
บางคนนิยมใช้ของแบรนด์เนม เพียงเพื่อยกระดับฐานะของตัวเอง สร้างภาพลักษณ์ให้คนทั่วไปเห็นเท่านั้น ทำให้ไม่คำนึงถึงทางเลือกทั่วไปเลย บางครั้งการซื้อของแบรนด์ก็มีความสมเหตุสมผล หากของชิ้นนั้นมีคุณภาพสูงกว่าและมีความคุ้มค่ากว่า แต่ส่วนใหญ่สินค้าคุณภาพดี ที่มีราคาระดับกลาง ๆ แต่มีคุณภาพที่ดีพอใช้งานได้ไม่ต่างจากสินค้าใบหรูเลยทีเดียว
ทุกอย่างที่เรานำเสนอมาให้คุณผู้อ่านอ่านกันในวันนี้ เชื่อว่าทุกคนต้องเคยเสียเงินให้กับมันแน่นอน แต่ถ้าหากคุณมีทางเลือกอื่นที่สามารถประหยัดเงิน ก็อาจจะทำให้คุณมีเงินเก็บได้มากขึ้นนะคะ