นายกนำทัพ ครม.ศก.ถกเวที “Thailand's Big Strategic Move”

นายกนำทัพ ครม.ศก.ถกเวที “Thailand's Big Strategic Move”

นายกนำทัพ ครม.ศก.ถกเวที  “Thailand's Big Strategic Move”
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นายกฯ นำทัพ ครม. เศรษฐกิจ ถกเวที “Thailand's Big Strategic Move” เชิญผู้ลงทุนทั่วโลกชูแผนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 22-23 มิ.ย. นี้

นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทีม ครม. เศรษฐกิจ นำโดย ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว. คลัง และ ดร. อุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรม ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน “Thailand's Big Strategic Move” พบผู้ลงทุนทั่วโลกพร้อมกันเป็นครั้งแรก เผยเตรียมให้ข้อมูลแผนยุทธศาสตร์ชาติและโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศอย่างก้าวกระโดด ตามโมเดล Thailand 4.0 เพื่ออนาคตของประเทศใน 20 ปีข้างหน้า พร้อมมุมมองการส่งเสริมการค้าการลงทุนและภาคตลาดทุนแก่ผู้บริหารระดับสูง ผู้ลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ ในวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำทัพทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้แก่ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ นำเสนอความน่าสนใจของประเทศไทยและตลาดทุนไทยแก่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศ ในงาน Thailand's Big Strategic Move เพื่อให้ผู้ลงทุนเห็นภาพรวมนโยบายและความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการส่งเสริมธุรกิจ startups ในประเทศไทย ภายใต้โมเดล Thailand 4.0

รวมถึงประเด็นที่น่าสนใจในการขยายขอบเขตการลงทุนในเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่ง EEC มีจุดเด่นคือเป็นทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่เชื่อมต่ออาเซียน เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งตัวเลข GDP จากกลุ่มประเทศดังกล่าวคือ 1 ใน 3 ของ GDP โลก ดังนั้น การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและโลจิสติกส์ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอันดับต้น ๆ ของโลก จะช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนของไทยในกลุ่มประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟัง ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน ที่มาร่วมให้ข้อมูลแสดงถึงศักยภาพของภาคธุรกิจที่สนับสนุนการขับเคลื่อนของประเทศอีกด้วย

“ตัวเลขไตรมาสแรกของ GDP ที่โตขึ้น 3.3% สะท้อนให้เห็นสัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐ ในโครงการสำคัญต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมพื้นฐาน การท่องเที่ยว การส่งออกของประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับตัวเลขผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาสแรกที่เติบโตต่อเนื่องหลังจากปีที่ผ่านมา บจ. ไทยได้แสดงผลการดำเนินงานดีเยี่ยม

โดยที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งสนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ของรัฐบาลทั้งในเรื่องการผลักดันให้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมและคลัสเตอร์เป้าหมายที่เป็นจุดแข็งของประเทศ พร้อมส่งเสริมความรู้และขยายช่องทางการระดมทุนให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ รวมถึง startups ให้สามารถต่อยอดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

สำหรับไฮไลท์ของงานนี้คือจะมีการจัด private session สำหรับผู้จัดการกองทุนต่างชาติระดับโลกกว่า 20 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) รวมกว่า 7.66 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าพบและรับฟังข้อมูลโดยตรงจากคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นการสนทนาและให้ข้อมูลที่จะสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนอย่างมากต่ออนาคตและการเติบโตของไทย” นางเกศรากล่าว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook