นายกนำทัพ ครม.ศก.ถกเวที “Thailand's Big Strategic Move”
นายกฯ นำทัพ ครม. เศรษฐกิจ ถกเวที “Thailand's Big Strategic Move” เชิญผู้ลงทุนทั่วโลกชูแผนยุทธศาสตร์ Thailand 4.0 22-23 มิ.ย. นี้
นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมทีม ครม. เศรษฐกิจ นำโดย ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว. คลัง และ ดร. อุตตม สาวนายน รมว. อุตสาหกรรม ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ จัดงาน “Thailand's Big Strategic Move” พบผู้ลงทุนทั่วโลกพร้อมกันเป็นครั้งแรก เผยเตรียมให้ข้อมูลแผนยุทธศาสตร์ชาติและโครงการสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตของประเทศอย่างก้าวกระโดด ตามโมเดล Thailand 4.0 เพื่ออนาคตของประเทศใน 20 ปีข้างหน้า พร้อมมุมมองการส่งเสริมการค้าการลงทุนและภาคตลาดทุนแก่ผู้บริหารระดับสูง ผู้ลงทุนสถาบันไทยและต่างประเทศ ในวันที่ 22-23 มิ.ย. นี้
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกที่ ฯพณฯ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นำทัพทีมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้แก่ ดร. สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ดร. อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ นำเสนอความน่าสนใจของประเทศไทยและตลาดทุนไทยแก่กลุ่มผู้ลงทุนสถาบันทั้งไทยและต่างประเทศ ในงาน Thailand's Big Strategic Move เพื่อให้ผู้ลงทุนเห็นภาพรวมนโยบายและความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มาตรการต่าง ๆ ที่จะช่วยสนับสนุนการลงทุน การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการส่งเสริมธุรกิจ startups ในประเทศไทย ภายใต้โมเดล Thailand 4.0
รวมถึงประเด็นที่น่าสนใจในการขยายขอบเขตการลงทุนในเขตเศรษฐกิจการลงทุนพิเศษระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor: EEC) ในกลุ่ม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่ง EEC มีจุดเด่นคือเป็นทำเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่เชื่อมต่ออาเซียน เอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ ซึ่งตัวเลข GDP จากกลุ่มประเทศดังกล่าวคือ 1 ใน 3 ของ GDP โลก ดังนั้น การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและโลจิสติกส์ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงอันดับต้น ๆ ของโลก จะช่วยเพิ่มโอกาสการลงทุนของไทยในกลุ่มประเทศดังกล่าว นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟัง ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทจดทะเบียน ที่มาร่วมให้ข้อมูลแสดงถึงศักยภาพของภาคธุรกิจที่สนับสนุนการขับเคลื่อนของประเทศอีกด้วย
“ตัวเลขไตรมาสแรกของ GDP ที่โตขึ้น 3.3% สะท้อนให้เห็นสัญญานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนของภาครัฐ ในโครงการสำคัญต่าง ๆ รวมถึงอุตสาหกรรมพื้นฐาน การท่องเที่ยว การส่งออกของประเทศที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจไทย ประกอบกับตัวเลขผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนไทยในไตรมาสแรกที่เติบโตต่อเนื่องหลังจากปีที่ผ่านมา บจ. ไทยได้แสดงผลการดำเนินงานดีเยี่ยม
โดยที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ มุ่งสนับสนุนแผนพัฒนาเศรษฐกิจ Thailand 4.0 ของรัฐบาลทั้งในเรื่องการผลักดันให้มีหลักทรัพย์จดทะเบียนใหม่ที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมและคลัสเตอร์เป้าหมายที่เป็นจุดแข็งของประเทศ พร้อมส่งเสริมความรู้และขยายช่องทางการระดมทุนให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการใหม่ รวมถึง startups ให้สามารถต่อยอดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย
สำหรับไฮไลท์ของงานนี้คือจะมีการจัด private session สำหรับผู้จัดการกองทุนต่างชาติระดับโลกกว่า 20 กองทุน มูลค่าสินทรัพย์สุทธิภายใต้การจัดการ (AUM) รวมกว่า 7.66 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าพบและรับฟังข้อมูลโดยตรงจากคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจซึ่งจะเป็นการสนทนาและให้ข้อมูลที่จะสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนอย่างมากต่ออนาคตและการเติบโตของไทย” นางเกศรากล่าว