"ข้าวแกงเตาถ่าน" ขายดีมานาน 30ปี สร้างรายได้วันละ 8 พันบาท

ข้าวแกงเตาถ่าน จ.สุรินทร์ ขายดีมานานกว่า 30 ปี สู้ชีวิตเริ่มต้นจากข้าวแกงเพียงหม้อเดียว ขายแกงถุงละ 3 บาท ปัจจุบัน ยอดขายประมาณ 7,000-8,000 บาท หักค่าใช้จ่ายแล้วยังเหลือกำไร ประมาณวันละ 2000 บาท

พบร้านวิไลโภชนา มีสองสามีภรรยา คือ นายรวมพล ทานสูงเนิน อายุ 77 ปี และนางวิไล ทานสูงเนิน อายุ 77 ปี เป็นเจ้าของร้าน ตั้งอยู่บริเวณ ห้าแยก โรงพยาบาลสุรินทร์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.สุรินทร์ เปิดขายข้าวแกง กว่า 20 เมนู ที่ทำมาจาก เตาถ่าน ในราคาย่อมเยา ข้าวราดแกง 1 อย่างราคา 30 บาท ข้าวราดแกง 2 อย่าง ราคา 35 บาท ข้าวที่ทางร้านเลือกใช้ก็เป็น ข้าวหอมมะลิสุรินทร์ 100% อย่างดี หุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้าขนาดใหญ่ วันละกว่า 8 หม้อ

โดยทุกวัน สองสามีภรรยาคู่นี้จะออกไปจ่ายตลาดเองทุกวัน เพื่อมาทำสารพัดเมนูเด็ด จากเตาถ่าน แบบโบราณ ซึ่งถ่านไม้ ก็ไปคัดเลือกซื้อมาอย่างดี กระสอบปุ๋ยละ 250 บาท เพื่อเป็นวัตถุดิบสำคัญ ในการเป็นเชื้อไฟ ในเตาถ่าน ให้คุกกลุ่น ไฟเบาๆ ไม่แรงจนเกินไป

เมนูเด็ด ขึ้นชื่อ ของทางร้าน เมนูยอดนิยม อันดับ 1 คือ แกงป่าดุกใส่ใบอีออม แกงเผือกปลาสด น้ำพริกปลาทู แกงขี้เหล็ก พะโล้โบราณ ผัดขี้เมา ผัดถั่วงอก ปลาส้มทรงเครื่อง ฯลฯ อร่อยทุกเมนู เข้าถึงทุกรสชาติ เพราะทำมาจากเตาถ่าน สูตรเด็ด เคล็ดลับ คือ การใช้เตาถ่าน ประกอบอาหาร โดยไม่ใช่เตาแก๊ส และอาหารพื้นเมืองยอดนิยม คือ สะลอเตราะ (ภาษาเขมรพื้นถิ่นสุรินทร์) หรือแกงเผือก แบบโบราณ มีหอม กระเทียม พริก กระชาย ใส่ข้าวคั่ว แล้วปรุงรสเอา

อีกเมนูขายดี คือ พะโล้โบราณ คือการเคี้ยวน้ำตาลทราย โดยจะไม่ใส่ซี้อิ๊วดำ ข้าวแกงกว่า 20 เมนู ขายดีหมดทุกวัน พออยู่ได้ แม้ว่าวัตถุดิบแพง ยอดขายประมาณ 7,000-8,000 บาท หักค่าใช้จ่าย ค่าจ้างลูกน้อง 2 คน กับลูกสาว อีก 1 คน จะเหลือกำไร โดยประมาณวันละ 2000 บาท