เช็คลิสต์ 15 สิ่งต้องลองทำ ก่อนอายุ 30!

โลกยิ่งหมุนไว เผลอแป็บๆ แต่ละปีก็พ้นผ่าน ไปไวราวกับโกหก รู้ตัวอีกทีหลายคนก็ผ่านวัยสนุกอย่างช่วงวัยรุ่นมาแตะหลักสามไม่รู้ตัว ไม่ว่าคุณจะกำลังเพลิดเพลินกับวัย 20 หยกๆ หรือ 30 หย่อนๆ ลองสละเวลาสักนิดมาเช็คลิสต์ดูซิว่า คุณได้ลองพาตัวเองไปลิ้มรสประสบการณ์ชีวิตของคนที่วัย 20 กว่าๆ ต้องทำกันมาครบหรือยัง

1.ลองใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ : ข้อดีของการใช้ชีวิตในหัวเมืองใหญ่ๆ คือ การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบเจอกับผู้คนที่หลากหลาย เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ต่อให้มีเงินถุงเงินถังก็หาซื้อไม่ได้ นอกจากมาลองสัมผัสเอง

2.ลองท้าทายสมรรถภาพร่างกาย : ในวัยหนุ่มสาวที่กำลังวังชายังเต็มร้อย สมรรถภาพร่างกายยังเต็มสูบ ลองหาโอกาสท้าทายร่างกายตัวเองด้วยการไปมาราธอนสักรอบ โดยเป้าหมายคุณไม่ใช่แค่เพื่อให้ได้รูปเก๋ๆ มาอวดลงโซเชียล แต่คุณกำลังสร้างบทเรียนชีวิตครั้งสำคัญ ที่จะได้สัมผัสกับความหมายของคำว่าพยายามเพื่อเอาชนะทุกขีดจำกัดทะยานไปสู่จุดหมาย ไม่แน่ว่าทักษะของความมุ่งมั่นนี้อาจติดตัวคุณ จนสามารถนำไปใช้ในการพาตัวเองไปสู่เป้าหมายในอนาคตก็เป็นได้

3.ลองใช้สมาธิสยบความเครียด : สิ่งที่มนุษย์เราต้องเผชิญตลอดชีวิต คือ ภาวะความเครียด เพราะฉะนั้นเพื่อรับมือกับสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงในระยะยาว เราจำเป็นต้องฝึกฝนวิธีการสงบจิตใจ หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดคือ การฝึกสมาธิและทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของงชีวิต เพราะการหมั่นฝึกสมาธิจะทำให้คุณโฟกัสกับสิ่งที่ทำ และ มีสติเสมอไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนหรือทำอะไร

4.ลองออกเดตออนไลน์ : ใครที่ขึ้นเลข 2 แล้วหัวใจยังว่าง แนะนำให้ลองล็อกอินเข้าไปลองตามหาคู่แท้ในเว็บไซต์หาคู่ต่างๆ ดู คุณไม่จำเป็นต้องเขินอาย แค่บอกตัวเองว่า ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้ ไม่แน่คนที่ใช่ของคุณก็อาจกำลังออนไลน์รอคุณอยู่ก็ได้

5.ลองตกหลุมรัก : ไม่สำคัญหรอกว่าผลลัพธ์จากความรักครั้งล่าสุดของคุณจะเป็นอย่างไร แต่ความรู้สึกที่ได้ลองรักใครสักคน ความรู้สึกดีๆ ที่มีให้กับคนๆ หนึ่งต่างหากคือสิ่งที่สำคัญ เพราะแม้สุดท้ายจะต้องเลิกรา แต่ภาพความสุขและประสบการณ์ของการได้ตกหลุมรักคือสิ่งล้ำค่าที่ไม่มีใครหามาให้คุณได้

6.ลองลิ้มรสความล้มเหลว : หนึ่งในประสบการณ์ชีวิตที่วัย 20 อัพ ต้องพาตัวเองออกไปลิ้มลองคือ รสชาติความผิดหวังและล้มเหลว และที่สำคัญต้องไม่ลืมที่จะเรียนรู้วิธีที่จะพาตัวเองก้าวพ้นวันที่โหดร้ายนั้น

7.ลองเดินทางคนเดียว : หากตอนนี้คุณยังอยู่ตัวคนเดียว และฐานะการเงินพอจะเอื้ออำนวย อย่าพลาดที่จะลองออกไปดูโลกใบใหญ่นี้ด้วยตาตัวเอง ลองทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง และออกไปเที่ยวคนเดียว ไม่แน่ว่าจบทริปแล้วคุณอาจจะพบคุณคนใหม่ที่น่าหลงใหลกว่าเดิม

8.ลองทำธุรกิจ : เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำ ทำให้ยุคนี้ใครๆ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจได้ เพราะฉะนั้นไม่มีเหตุผลที่คุณจะทิ้งโอกาสนี้ อย่างน้อยแม้สุดท้ายธุรกิจจะล้มเหลวไม่เป็นท่า แต่คุณก็ได้บทเรียนล้ำค่ามากมายกลับมาเป็นของรางวัล ซึ่งคุณไม่มีวันหาได้จากตำราเล่มไหน หรือ มีมหาวิทยาลัยแห่งไหนเปิดสอน

9.ลองสื่อสารภาษาคอมฯ : ทุกวันนี้คอมพิวเตอร์แทบจะกลายเป็นเครื่องใช้สามัญประจำบ้านไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากคุณสามารถเรียนรู้ภาษาโปรแกรมไว้เป็นความรู้ติดตัวไว้บ้าง เท่ากับคุณทำให้ตัวเองได้เปรียบคนอื่นไปอีกก้าว

10.ลองทำบล็อก : การเขียนเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทุกคนพึงมี แต่หลายครั้งถูกมองข้ามหรือถูกสกัดดาวรุ่งด้วยการบอกตัวเองว่า ฉันไม่ถนัดเขียน เพราะฉะนั้นเพื่อทลายกำแพงคำว่า “ทำไม่ได้” คุณยิ่งต้องลงมือทำ เริ่มจากการเขียนบล็อกส่วนตัว คุณไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าว่าบล็อกของคุณต้องดัง หรือต้องเป็นบล็อกเกอร์ตัวแม่ของวงการ แต่แค่เขียนในเรื่องที่คุณสนใจออกมาให้ดีที่สุดก็พอ

11.ลองเรียนภาษาต่างประเทศ : ลองเปิดโลกของคุณให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ด้วยการเรียนภาษาอื่นๆ แล้วคุณจะรู้ว่า โลกใบนี้กว้างใหญ่เหลือเกิน

12.ลองไปมันส์กับคอนเสิร์ตของศิลปินโปรด : แม้บางครั้งค่าตั๋วคอนเสิร์ตจะทำเอากระเป๋าเงินของคุณแฟบ แต่หากชั่งใจแล้วว่าเงินที่จ่ายไปคุ้มค่ากับความสุขที่ได้กลับมาก็จ่ายไปเถอะ เพราะคุณไม่รู้หรอกว่า ถ้าพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว จะได้มีโอกาสชมคอนเสิร์ตของศิลปินคนโปรดอีกหรือไม่

13.ลองเข้าคลาสทำอาหาร : การเรียนรู้ไม่มีคำว่าสิ้นสุด ต่อให้คุณจะพอมีเสน่ห์ปลายจวักติดตัวอยู่บ้าง แต่บางครั้งอาหารจานง่ายๆ ที่คุณทำ ก็ไม่สามารถหยิบมาโชว์หรือใช้เป็นหน้าเป็นตาในโอกาสสำคัญได้ เพราะฉะนั้นคงจะดีไม่น้อย ถ้าคุณหาเวลาไปเข้าคอร์สเรียนทำอาหาร เพื่อสรรหาจานเด็ดสักเมนูไว้เป็นเมนูออกงาน ที่ทำอวดได้ไม่ขายหน้า

14.ลองรับมือกับภาษี : ตราบใดที่คุณยังมีรายได้ ภารกิจจัดการภาษียังอยู่เป็นเงาตามตัวไม่ห่าง หากคุณรู้จักลับฝีมือให้รู้วิธีจัดภาษีได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ไม่ต้องมาทนปวดหัวทุกปีกับตัวเลขภาษี

15.ลองทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า : ในโลกไร้พรมแดน คุณไม่จำเป็นต้องขังตัวเองอยู่ในคอมฟอร์ตโซน บางครั้งการเปิดใจ พูดคุยกับคนแปลกหน้าและคนรอบตัวที่เจอบ้าง ก็ทำให้ปริมาณความสุขของคุณเพิ่มขึ้นได้แบบไม่รู้ตัว