โลกวุ่นๆของนักช้อปออนไลน์ชาวไทย

โลกวุ่นๆของนักช้อปออนไลน์ชาวไทย

โลกวุ่นๆของนักช้อปออนไลน์ชาวไทย
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถ้าหากคุณเป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจขายสินค้าในตลาดอีคอมเมิร์ซหรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับผู้ซื้อสินค้าออนไลน์แล้วล่ะก็ คุณมักจะต้องพบเจอกับผู้ซื้อสินค้าอีคอมเมิร์ซชาวไทยที่ทั้งจุ้นจ้านและเรื่องมากอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามผู้บริโภคบางกลุ่มก็ช่างแสนดีและง่ายต่อการให้บริการนั้นก็ยังมี เนื่องจากผู้บริโภคชาวไทยนั้นมีความเชื่อ,พื้นเพ,วัฒนธรรม,และการได้รับการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันออกไป จึงทำให้พฤติกรรมของพวกเขาในโลกออนไลน์นั้นแตกต่างกันด้วย

บริษัท iPrice ซึ่งเป็นเว็บค้นหาสินค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดใน 7 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกิดไอเดียในการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวไทยและจัดกลุ่มพวกเขาตามพฤติกรรมการบริโภคสินค้าออนไลน์ มาดูกันว่า iPrice พบข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้บริโภคสินค้าออนไลน์ตัวป่วนกลุ่มไหนกันบ้าง

cs2

1. อีคอมเมิร์ซตอบโจทย์กลุ่มคนรักสบาย
ร้านค้าอีคอมเมิร์ซได้เข้ามาตอบโจทย์คนไทยที่รักความสบายได้อย่างไม่น่าเชื่อ จากอดีตการซื้อสินค้าจะต้องฝ่ารถติดและฝ่าฝูงชนไปหาซื้อสินค้ากันในห้างสรรพสินค้ากันอย่างอลหม่าน อีคอมเมิร์ซจึงเข้าช่วยให้ชาวไทยใช้ชีวิตง่ายขึ้น โดยสั่งซื้อสินค้าเพียงนิ้วคลิ๊ก ก็ได้สินค้ามาส่งถึงหน้าบ้านกันแล้ว โดยกลุ่มคนรักสบายมีสูงถึง 62.5% เลยทีเดียว โดยรองลงมาคือกลุ่มนักล่าดีลที่มองหาสินค้าราคาถูกในโลกออนไลน์ และเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อทุกครั้ง

2. ค้นหาข้อมูลได้ง่ายดายเพราะกูเกิ้ลคือพ่อทุกสถาบัน
ถ้าหากจัดกลุ่มโดยการค้นหาสินค้าแล้วนั้น กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือกลุ่ม กูเกิ้ลพ่อทุกสถาบัน ที่ใช้ Search Engine ในการค้นหาด้วยตัวเอง กล่าวคือผู้บริโภคใช้ Google, Yahoo, Bing ในการหาข้อมูลด้วยตนเอง พวกเขาต้องการรับข่าวสารจากแหล่งข้อมูลหลายแหล่งและนำข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์ผ่านกระบวนการความคิดและตัดสินใจของพวกเขา ซึ่งทำให้กลุ่มผู้บริโภคที่เลือกใช้ Search Engine สูงถึง 77% อีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจก็คือกลุ่มติ่งเน็ตไอดอล ซึ่งเป็นพวกเชื่อคำโฆษณาของเน็ตไอดอลต่างๆ และนำมาตัดสินใจในการซื้อสินค้า โดยกลุ่มนี้มีขนาดเพียง 21%

3. พ่อคนล้าสมัยนิยมจ่ายเงินผ่านธนาคาร
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีและความก้าวหน้าของ Fintech ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้าหากพูดถึงการชำระค่าสินค้าออนไลน์ หลายๆคนคงจะต้องนึกถึงการโอนเงินผ่านธนาคารเป็นอย่างแรก ซึ่งกว่า 50% ของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ชาวไทยเลือกว่าพวกเขาใช้บริการธนาคารเป็นประจำ ขอเรียกกลุ่มนี้ว่าพ่อคนล้าสมัย สาเหตุอันเนื่องมาจากผู้บริโภคยังมีพฤติกรรมและความเชื่อแบบดั้งเดิมคือการโอนเงินผ่านธนาคารนั้นมีความน่าเชื่อถือมากกว่าการชำระค่าสินค้าด้วยระบบอื่นๆ จึงทำให้การชำระค่าสินค้าผ่านทางธนาคารนั้นได้รับความนิยมเป็นอันดับหนึ่ง

ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่ขายสินค้าออนไลน์ คำถามที่คุณจะถูกถามบ่อยที่สุดก็คือ “คุณมีธนาคาร XXX ไหม ผมจะได้ไม่ต้องจ่ายค่าโอนต่างธนาคาร”

4. มนุษย์ลงทะเบียน ร้องสินค้าต้องมี Tracking เท่านั้น
การจัดสั่งสินค้าให้ลูกค้า คุณคงจะถูกถามบ่อยๆว่าสินค้าลงทะเบียนหรือไม่ ซึ่งผู้บริโภคกว่า 56% ต้องการให้สินค้าของพวกเขาลงทะเบียน เนื่องจากสินค้าลงทะเบียนนั้นมีราคาประหยัดและที่สำคัญคือมี Tracking Code สำหรับการติดตามสินค้าเพื่อจะได้ทราบวันที่สินค้าจะจัดส่งอย่างแน่นอน นอกจากนี้มันยังช่วยคลายกังวลว่าสินค้าจะสูญหายหรือไม่ให้กับคนกลุ่มนี้ มากกว่านั้นลูกค้าตัวป่วนมักต้องการให้ร้านค้าจ่ายค่าจัดส่งให้อีกด้วย

5. ชาวเน็ตนิยมบอกเล่าหลังได้รับสินค้า
เมื่อได้รับสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนไทยซึ่งมีนิสัยแบบชาวเน็ตกว่า 34% เขียนเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสินค้าที่ได้ซื้อมาในโซเชียลมีเดียของตนเอง ผ่านการรีวิว, ภาพถ่าย, หรือแม้กระทั่งเขียนแคปชั่นเก๋ๆเพื่อโชว์สินค้าให้แก่คนอื่นๆได้รับรู้ โดยมีเพียง 17% ของคนไทยที่ซื้อสินค้ามาแล้วจะอ่านคู่มือการใช้และหาวิธีการใช้ให้แน่นอน

6. คนไทยเป็นคนตรง ชอบรีวิวแบบตรงไปตรงมา
คนไทยที่ได้ชื่อว่าเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน ชอบการวิจารณ์แบบอ้อมค้อม เนื่องจากกลัวการปะทะกันต่อหน้า ที่สำคัญคนไทยขึ้นชื่อว่าเป็นพวกเดินทางสายกลาง นิยมให้คะแนนแบบกลางๆ เพราะกลัวบาปกรรม แต่พฤติกรรมเหล่านี้คงไม่ใช่สำหรับคนไทยในโลกออนไลน์ ถ้าหากพูดถึงการเขียนรีวิวของคนไทยต่อสินค้าและบริการแล้วนั้น คนไทยกลับเป็นคนตรงไปตรงมา ถ้าหากพวกเขาชอบสินค้าและบริการก็จะให้คะแนนเต็ม แต่ถ้าหากสินค้าและบริการไม่ได้ดั่งใจก็ให้คะแนนที่น้อย โดยคนตรงๆแบบนี้มีมากกว่า 50% เลยทีเดียว โดยรองลงมาคือพวกเดินทางสายกลางซึ่งมีปริมาณ 22% และพวกโลกสวยที่ให้คะแนนรีวิวเต็มอยู่เสมอมีอยู่จำนวน 11%

ทั้ง 6 ข้อนี้คือการศึกษาที่น่าสนใจที่เราได้พบจากการศึกษาพฤติกรรมของผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ตัวป่วนชาวไทย เราชื่อว่าร้านขายสินค้าออนไลน์ทั้งเล็กและใหญ่ในประเทศไทยจะต้องเจอเรื่องปวดหัวไม่เว้นแต่ละวัน เพื่อขายสินค้าและให้บริการที่ดีที่สุดต่อลูกค้าเหล่านี้ เพราะความสุขของลูกค้าก็คือความสุขของเรานั่นเอง ดังนั้นร้านขายสินค้าออนไลน์ควรนำการศึกษาครั้งนี้ไปปรับใช้เพื่อรับมือต่อลูกค้าตัวป่วนเหล่านี้ให้ดีขึ้นนั่นเอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook