แผนการเกษียณอายุสำหรับคนโสด
บางครั้งคุณอาจรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาสำหรับคนมีคู่เท่านั้น เช่น การวางแผนเกษียณอายุสำหรับคนมีคู่ ที่บทความต่าง ๆ มักจะมีคำแนะนำและข้อเสนอแนะสำหรับการเกษียณอายุเพื่อคนมีคู่เท่านั้น แต่ใช่ว่าคำแนะนำเรื่องต่าง ๆ สำหรับคนโสดจะไม่มีเลยนะคะ เพราะวันนี้เรามีข้อเสนอแนะเรื่องการวางแผนเพื่อเกษียณอายุสำหรับคนโสดมาฝากค่ะ
1. คุณต้องมีประกันกรณีทุพพลภาพอย่างเพียงพอ
ก่อนอื่นเลย คุณต้องหาวิธีที่คุณจะป้องกันตัวเองจากกรณีที่ต้องสูญเสียรายได้เสียก่อน โดยการทำประกันสุขภาพหรือประกันกรณีทุพพลภาพ เพราะการทำประกันเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับผู้ที่อยู่คนเดียวหรือเป็นโสด อีกทั้งคุณจำเป็นต้องปกป้องตัวเองจากการสูญเสียรายได้และทรัพย์สินของคุณ จากความเป็นไปได้ที่คุณอาจจะไม่สามารถทำงานได้ ก่อนที่คุณจะเริ่มต้นวางแผนการเกษียณอายุค่ะ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าคุณจะมีประกันกรณีทุพพลภาพจากสวัสดิการในที่ทำงานของคุณ แต่มันก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะช่วยป้องกันคุณจากการสูญเสียรายได้ ดังนั้นคุณจำเป็นต้องทำประกันสุขภาพและประกันกรณีทุพพลภาพอย่างเพียงพอแล้วนะคะ
2. เตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพของคุณ
ค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ นับว่าเป็นความกังวลหลักสำหรับผู้ที่เกษียณอายุ เนื่องจากคุณไม่อาจควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่คุณควรตระหนักก็คือ คนโสดมักมีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูงกว่าคนที่แต่งงานแล้ว นั่นเป็นเพราะคู่ที่แต่งงานแล้วหลายคู่จะสามารถช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลซึ่งกันและกันได้ แต่ใช่ว่าคนโสดจะไม่มีทางเลือกเลย คุณสามารถใช้ประกันสุขภาพเพื่อให้คุณจ่ายค่ารักษาพยาบาลน้อยลงได้ค่ะ หรือจะหาเพื่อนมาอยู่ด้วยเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านก็ได้ ซึ่งการหารูมเมทมาอยู่ด้วยไม่ใช่แค่ช่วยให้คุณประหยัดเท่านั้น แต่มันยังทำให้คุณได้มีสังคมอีกด้วย
3. มอบอำนาจให้คนอื่นดูแล
คุณรู้หรือไม่ว่าใครจะเป็นผู้ดูแลเรื่องการดูแลสุขภาพหรือการตัดสินใจทางการเงินของคุณ ในช่วงเวลาที่คุณไม่สามารถทำเองได้? หากคุณตอบไม่ได้ว่าใครจะเป็นผู้ดูแล คุณต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจให้กับคนที่คุณไว้ใจดูแล เพื่อให้แน่ใจว่าความปรารถนาของคุณได้รับการปฏิบัติตาม หากคุณไม่สามารถตัดสินใจได้หรือเกิดเจ็บป่วยขึ้นมาก่อน ในหนังสือมอบอำนาจนั้นคุณจำเป็นต้องกรอกด้วยว่าคุณเก็บเอกสารสำคัญของคุณไว้ที่ใด และควรมีการแจ้งกับผู้ถูกมอบอำนาจทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในชีวิตหรือคำสั่งของคุณ เพราะผู้ถูกมอบอำนาจคือบุคคลที่จะชำระค่าใช้จ่ายของคุณ และจัดการกับคำสั่งของคุณหากคุณป่วยค่ะ
4. มีประกันสังคมให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
ตัวเลือกในการเพิ่มประสิทธิภาพของสิทธิประโยชน์ประกันสังคมง่ายมากนะคะสำหรับคนโสด โดยทั่วไปวิธีเดียวที่จะได้รับสิทธิประโยชน์รายเดือนที่สูงขึ้นหากคุณเป็นโสดก็คือการรอ หรือการถือสิทธิ์ประกันสังคมให้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ ในช่วงอายุที่คุณทำงานค่ะ
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำนาญชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 180 เดือน ไม่ว่าระยะเวลา 180 เดือนจะติดต่อกันหรือไม่ก็ตาม
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
เงื่อนไขการเกิดสิทธิกรณีบำเหน็จชราภาพ
- จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน
- ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
- มีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ หรือถึงแก่ความตาย
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำนาญชราภาพ
- กรณีจ่ายเงินสมทบ มาแล้ว ไม่น้อยกว่า 180 เดือน มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนใน อัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้น สุดลง
- กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญชราภาพตามข้อ 1 ขึ้นอีกในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อ ระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
ประโยชน์ทดแทนกรณีบำเหน็จชราภาพ
- กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบต่ำกว่า 12 เดือน ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ มีจำนวนเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนและนายจ้างจ่ายเงินสมทบ เพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
เห็นไหมคะ ใครว่าเป็นโสดแล้วจะลำบาก ไม่จริงเลยค่ะ เพราะทุกวันนี้นั้นมีตัวเลือกและวิธีการต่าง ๆ มากมายที่จะทำให้คนเป็นโสดสามารถใช้ชีวิตบั้นปลายได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น แล้วคุณล่ะคะ วางแผนเรื่องการเกษียณอายุแล้วหรือยัง? หากยัง เราขอแนะนำให้เริ่มเลยตั้งแต่วันนี้ ในขณะที่คุณยังมีแรงทำงานเก็บเงินอยู่นะคะ เพราะการเกษียณอายุจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ และเงินก้อนใหญ่ก็ใช้ระยะเวลานานมากกว่าจะเก็บได้ตามเป้าหมาย