รู้ไว้จะได้หลบทัน 6 หลุมพรางมือใหม่คิดซื้อบ้าน (หลังแรก)

ถึงจะบอกตัวเองเป็นล้านครั้งว่าการซื้อบ้าน ไม่เหมือนการซื้อเสื้อผ้า หรือ กระเป๋าที่หากไม่ถูกใจ ที่อยู่ไปสักพักแล้วรู้สึกไม่ชอบก็แค่ทิ้งไว้ หรือ ทำใจยกให้คนอื่นได้ง่ายๆ ฉะนั้นก่อนคิดจะเซย์เยสกับบ้านซักหลัง ต้องมั่นใจแล้วว่าคิดถี่ถ้วนแล้วจริงๆ แม้ทุกวันนี้จะเป็นยุคที่ข้อมูลข่าวสารไหล่บ่า แค่คลิกเดียวก็มีฮาวทูสำหรับแนะนำมือใหม่หัดซื้อบ้านมากมายให้ติดตาม

แต่ขึ้นชื่อว่าสี่เท้ายังรู้พลาด แม้จะทำการบ้านหนัก เตรียมตัวมาดีขนาดไหน ก็ยังไม่วายตกม้าตายเอาดื้อๆอยู่ดี เพราะฉะนั้นเพื่อล้อมคอกไม่ให้ต้องพบกับความผิดหวังตั้งแต่ซื้อบ้านหลังแรก ลองมาดู 6 กับดักความผิดพลาดยอดฮิตที่คนซื้อบ้านหลังแรกมักมองข้ามมาไว้เป็นเครื่องเตือนใจกัน

1.ซื้อเพราะอารมณ์ล้วนๆ คุณต้องท่องไว้เสมอว่า “บ้าน” คือ ของที่แพงที่สุดในชีวิตที่คุณคิดจะซื้อก็ว่าได้ หนึ่งในคำแนะนำจากกูรูด้านการขายบ้านคือ ก่อนตัดสินใจเซย์เยส ให้ลองผ่อนคลายตัวเองสักนิด อย่ายึดติด เอาความอยากได้เป็นที่ตั้ง ให้คิดเสมอว่า ถึงจะพลาดจากบ้านหลังนี้ ก็ยังมีอีกหลายหลังพร้อมเป็นตัวเลือกให้คุณ ทางที่ดีควรเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองดูบ้านหลายๆหลังก่อน เพราะถึงการเลือกบ้านจะไม่ต่างกับการเลือกคู่ชีวิต แต่บ้านไม่เหมือนกับแฟนที่ต้องคบทีละคน ในทางกลับกันคุณสามารถเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ลองค่อยๆเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของบ้านหลายๆหลัง จนกว่าจะได้คำตอบว่าบ้านหลังไหนคือบ้านที่ถูกใจจริงๆ

2.คิดแต่จะหาบ้านด้วยตัวเอง ถึงตนจะเป็นที่พึ่งแห่งตน แต่บางครั้งในการหาบ้านที่ใช่สักหลัง ก็ไม่ต่างจากการงมเข็มในมหาสมุทร ถ้าจะหาเข็มให้เจอ บางครั้งก็ต้องอาศัยตัวช่วย หนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจคือ ลองมองหาตัวแทนขายบ้านที่เชื่อถือได้ เพื่อช่วยตามหาบ้านที่ใช่ให้คุณอีกแรง

3.มีเงินเก็บไม่พอ ใครที่คิดจะมีบ้าน ต้องมองอนาคตให้ไกล ไม่ใช่แค่พอให้มีเงินดาวน์และเงินจอง ที่เหลือฝากดวงไว้กับผลรอกู้เงินจากธนาคาร เพราะแม้สุขภาพการเงินของคุณจะสอบผ่าน ธนาคารตอบรับอนุมัติเงินกู้ แต่คุณก็ยังไม่อาจยกภูเขาออกจากอก เพราะยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะอีกมากมายที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งค่าจดจำนองและโอนกรรมสิทธิ์บ้านพร้อมที่ดิน, เงินค่าส่วนกลาง,เงินค่าประกันมิเตอร์น้ำประปาและไฟฟ้า ฯลฯ ที่ต้องเตรียมไว้ให้พร้อม ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าตกแต่ง ค่าเฟอร์นิเจอร์ฉลองขึ้นบ้านใหม่ เพราะฉะนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อบ้าน คุณต้องวางแผนการเงินให้รอบคอบ

4.ไม่รู้สุขภาพการเงินตัวเอง เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่เสียเงินดาวน์บ้านไปฟรีๆ หนึ่งในขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม คือ การยื่น pre-approve ซึ่งเปรียบเหมือนการซื้อข้อสอบเก่ามาลองทำก่อนเข้าห้องสอบจริง เพื่อดูว่าคุณอ่านหนังสือมาพร้อมแค่ไหน ขั้นตอนนี้จะช่วยตรวจสอบความสามารถการกู้ของคุณในเบื้องต้น ด้วยอิงจากรายได้ และ ภาระหนี้สินที่มี ทั้งนี้ ผลลัพทธ์ pre-approve ที่ออกมาว่า “ผ่าน” ไม่ได้เป็นหลักประกันว่าเมื่อไปถึงมือธนาคารแล้ว จะต้องเห็นพ้องตามนั้น ทางดีคุณควรเผื่อใจไว้ด้วย เพราะในการพิจารณาของธนาคารยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ความชัดเจนของที่มารายได้, ราคาประเมินหลักทรัพย์ ฯลฯ

5.ไม่ตรวจรับบ้าน ในกรณีที่ไม่ได้ซื้อบ้านพร้อมอยู่ หลังจากที่จองบ้านและเริ่มผ่อนดาวน์กันแล้ว แนะนำให้หมั่นหาเวลาเข้าไปตรวจดูความเรียบร้อยของการก่อสร้างบ้าน แต่สำหรับใครที่ซื้อบ้านพร้อมอยู่ ต้องตรวจรับบ้านให้ละเอียด อย่าเซ็นต์รับบ้านโดยที่ไม่ได้ตรวจงานให้เรียบร้อยเด็ดขาด หากไม่มีความรู้เรื่องการตรวจรับบ้านแนะนำให้หาเพื่อนๆใกล้ตัวมาช่วยก็ได้ เพราะอย่างน้อยถ้าในขั้นตอนนี้ คุณมีปัญหาหรือพบข้อผิดพลาดในบ้านจริง ทางโครงการยังยินดีรับผิดชอบแก้ไขให้เต็มที่

6.ไม่สนใจเรื่องประกันบ้าน ส่วนใหญ่การซื้อบ้านด้วยเงินกู้ มักจะมีเงื่อนไขบังคับให้ซื้อประกันคุ้มครองบ้าน เพื่อความปลอดภัยของหลักประกันอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นอย่ามองข้าม ตรวจสอบรายละเอียดของประกันให้ดี เพราะถึงจะไม่หวังให้บ้านที่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงจะต้องเจอเหตุไม่คาดฝัน แต่อย่างน้อยถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจริง คุณจะได้พร้อมรับมือ

เรียบเรียงข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : www.businessinsider.com