6 กลยุทธ์ในการชำระหนี้ เมื่อคุณมีรายได้ไม่คงที่

6 กลยุทธ์ในการชำระหนี้ เมื่อคุณมีรายได้ไม่คงที่

6 กลยุทธ์ในการชำระหนี้ เมื่อคุณมีรายได้ไม่คงที่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

การชำระหนี้นั้นเป็นเรื่องที่ยาก แม้ว่าคุณจะมีเงินเดือนที่คงที่ก็ตาม ยิ่งถ้าหากคุณทำงานอิสระหรือมีรายได้ไม่คงที่ การชำระหนี้ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก วันนี้เราจึงนำกลยุทธ์ในการชำระหนี้ ที่จะช่วยให้คุณสามารถดูแลภาระทางการเงินของคุณได้มาฝากค่ะ

1. ตั้งงบประมาณจากรายได้พื้นฐานของคุณ

ก่อนอื่นคุณต้องคำนวณรายได้พื้นฐานของคุณก่อน รายได้พื้นฐานคือรายได้คงที่ที่คุณต้องได้รับแน่นอนในแต่ละเดือน แบบว่าแม้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายที่สุดคุณก็ยังสามารถพึ่งพารายได้ก้อนนี้ได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเป็นพนักงานขายของ และรายได้ของคุณคือเงินเดือนพื้นฐานบวกค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเงินเดือนพื้นฐานของคุณนั่นแหละคือรายได้พื้นฐาน ค่าคอมมิชชั่นไม่ใช่รายได้พื้นฐานของคุณ เพราะมันมีรายรับไม่คงที่ค่ะ และจากรายได้พื้นฐานนี้ ก็ให้คุณสร้างงบประมาณที่ครอบคลุมการชำระหนี้ขั้นต่ำที่คุณต้องจ่ายทุกเดือนค่ะ

2. ลดค่าใช้จ่ายของคุณ

การใช้จ่ายของคุณเป็นเรื่องที่สำคัญ คุณจำเป็นต้องทราบว่าในแต่ละเดือนคุณใช้จ่ายอะไรไปบ้าง ตัวอย่างเช่น คุณซื้อหนังสือเป็นจำนวนเงิน 300 บาททุกเดือน หรือคุณต้องซื้อของใช้เข้าบ้านเป็นจำนวนเงิน 3,000 บาททุกเดือน เมื่อคุณตระหนักถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคุณ ต่อไปก็คือขั้นตอนในการหาวิธีลดค่าใช้จ่ายเหล่านั้น

อย่างไรก็ตามคุณไม่จำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ให้ลดค่าใช้จ่ายกับพวกที่ไม่ได้ทำให้คุณภาพชีวิตของคุณดีขึ้น สำหรับหนี้สินต่าง ๆ นั้น คุณควรตรวจสอบว่าคุณสามารถลดดอกเบี้ยกับเจ้าหนี้ต่าง ๆ ได้ไหม เพื่อที่ว่าคุณจะได้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้นค่ะ

3. สร้างการออมของคุณ

หากเดือนไหนคุณมีรายได้เยอะ ก็ให้แบ่งรายได้ส่วนหนึ่งเข้าบัญชีออมทรัพย์ และปล่อยให้เงินสะสมอยู่ในบัญชีนั้นนาน ๆ บ้างนะคะ เพื่อที่ว่าเมื่อคุณเกิดเหตุฉุกเฉิน คุณจะได้ใช้เงินส่วนนี้มาจับจ่ายใช้สอยก่อนค่ะ

4. รับงานเพิ่ม

อีกกลยุทธ์หนึ่งสำหรับการชำระหนี้ให้หมดเร็ว ๆ คือการรับงานที่มั่นคง หรืองานพิเศษเพิ่มเติม ทั้งนี้มีหลายช่องทางเลยทีเดียวที่คุณสามารถหารายได้เพิ่มเติมได้ โดยเฉพาะงานประจำหรืองาน part-time ที่ดูน่าจะมีประโยชน์มากที่สุดในกรณีนี้ อีกทั้งการมีรายได้เยอะขึ้นยังเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้คุณมีชีวิตรอดและเจริญรุ่งเรืองอีกด้วย

5. ปฏิบัติตามแผนออมทรัพย์

คุณอาจไม่สามารถเพิ่มเงินออมของคุณได้ในช่วงเวลาอันน้อยนิด แต่หากคุณมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น มันก็จะสามารถทำให้เงินออมของคุณเพิ่มขึ้นได้ง่าย ๆ อย่างไรก็ดีคุณควรวางแผนออมเงินไว้ก่อนที่คุณจะได้รับเงินก้อนใหญ่ ตัวอย่างเช่น คุณอาจตัดสินใจว่าคุณต้องแบ่งเงินก้อนใหญ่ที่จะได้รับมาออกเป็นสามส่วน คือ ออม 30 เปอร์เซ็นต์ ชำระหนี้ 30 เปอร์เซ็นต์ ใช้จ่าย 10 เปอร์เซ็นต์ เป็นต้น

6. ปฏิบัติตามแผนการลดหนี้

หากคุณใช้แผนด้านบนหรือแผนที่คล้ายคลึงกัน คุณจะทราบว่ารายได้ที่นอกเหนือจากรายได้พื้นฐานของคุณนั้นช่วยลดหนี้สินของคุณได้อย่างมาก และเมื่อพูดถึงเรื่องหนี้สิน การชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงที่สุดเป็นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกในแผนการลดหนี้ นอกจากนี้คุณยังสามารถเจรจากับเจ้าหนี้ได้ เพื่อขอให้เขาลดดอกเบี้ยให้ แบบนี้คุณจะสามารถชำระหนี้หมดได้เร็วค่ะ

การทำงานอิสระอาจจะมีทั้งข้อดีข้อเสียนะคะ ข้อดีคือคุณสามารถจะทำงานตอนไหนก็ได้ ไม่ต้องมีสิ่งแวดล้อมของออฟฟิศมากดดันการทำงานของคุณ แต่ข้อเสียคือคุณอาจจะได้เงินไม่ตรงตามวันทุก ๆ เดือน จึงทำให้การจ่ายหนี้สินของคุณต้องเป็นอันคลาดเคลื่อนไปบ้าง ดังนั้นคุณจึงควรมีวินัยในการใช้จ่ายให้มากที่สุดค่ะ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook