7 วิธีพิสูจน์แล้วว่าเปลี่ยนมนุษย์เงินเดือนให้เป็นเศรษฐีได้จริง!

7 วิธีพิสูจน์แล้วว่าเปลี่ยนมนุษย์เงินเดือนให้เป็นเศรษฐีได้จริง!

7 วิธีพิสูจน์แล้วว่าเปลี่ยนมนุษย์เงินเดือนให้เป็นเศรษฐีได้จริง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ลำพังต้องใช้ชีวิตในยุคที่ “สตาร์ทอัพ” กลายเป็นเทรนด์ใหม่ที่มาแรงแซงทุกกระแส อาชีพฟรีแลนซ์ คืออาชีพในฝันที่หลายคนปรารถนาอยากลิ้มลองรสชาติการเป็นเจ้านายตัวเองดูสักครั้ง ก็ทำให้หลายคนที่ยังก้มหน้าเป็นมนุษย์ออฟฟิศทำงานรอสิ้นเดือนหดหู่ใจมากพออยู่แล้ว แถมบางคนยังซ้ำเติมตัวเองให้ยิ่งหมดหวังด้วยการป้อนความคิดลบๆใส่หัวว่า ตราบที่ยังกินเงินเดือน ชาตินี้ ไม่มีวันรวย ทั้งที่ความจริงแล้ว ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป เพราะเส้นทางสู่การเป็นเศรษฐีไม่ได้คับแคบขนาดนั้น ถึงจะมีตัวอย่างของผู้คนมากมายที่สร้างตัวเป็นเศรษฐีจากการทำธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มนุษย์เงินเดือนจะไม่มีทางรวย

จากผลการศึกษาเรื่อง Rich Habits โดยโธมัส คอร์ลีย์ นักเขียนชื่อดังที่อุทิศเวลาถึง 5 ปี เพื่อศึกษาชีวิตของคนรวยที่รายได้ต่อปีไม่น้อยกว่า 160,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 5.4 ล้านบาท และมีทรัพย์สินโดยรวมไม่ต่ำกว่า 3.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 108 ล้านบาท) จำนวน 233 คน เขาได้พบความลับที่น่าอัศจรรย์ใจ ว่าขณะที่หลายคนมองว่าเศรษฐีที่สร้างตัวด้วยสองมือ ล้วนเริ่มต้นจากการแปลงแพชชั่นที่มีต่อยอดเป็นธุรกิจพันล้าน เขากลับพบว่า 39% ของเศรษฐี สร้างตัวจากการเป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนเหมือนเราๆ แต่สิ่งที่พวกเขาแตกต่างคือ ทำตาม 7 กฎเหล็กดังต่อไปนี้

terra2408601


1.ทุ่มเทเวลาให้กับงาน หนึ่งในพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างที่พบว่าเข้าข่ายมนุษย์เงินเดือนที่มีแววรวยทำ คือ พวกเขาไม่เกี่ยงงอนที่จะทำงานหนัก พร้อมทุ่มเทเวลาให้กับงานมากกว่าคนอื่น โดยเฉลี่ยพวกเขาทำงานสัปดาห์ละ 51 ชั่วโมง แถมในจำนวนนี้ 44% ยังเริ่มทำงานก่อนเพื่อนพนักงานคนอื่นในบริษัทถึง 3 ชั่วโมง

2.พัฒนาตัวเองให้อยู่กลุ่ม “นิช” แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นพนักงานที่ไม่ต่างจากสินค้าแมช (Mass) ที่หาได้อย่างดาษดื่น คู่แข่งสูง มนุษย์เงินเดือนที่มีแววรวยเลือกที่จะพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้เป็นสินค้านิช (Niche) ที่มีความเฉพาะกลุ่ม คู่แข่งไม่มาก แต่เป็นที่ต้องการ แม้กว่าจะพัฒนาตัวเองให้เป็นไปถึงจุดนั้นได้ ต้องแลกด้วยการทำงานหนัก ฝ่าฝันสารพัดอุปสรรคก็ตาม

3.ผูกไมตรีกับผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจ คนกลุ่มนี้มักสานสัมพันธ์ สร้างคอนเนกชั่นกับเหล่าผู้บริหารระดับสูงทั้งในและนอกบริษัท ตลอดจนคนในแวดวงธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

4.หาโอกาสและสร้างเวทีให้ตัวเอง พวกเขามักเข้าร่วมในโปรเจกต์ต่างๆ เพราะมองถึงประโยชน์สามต่อที่จะได้รับ ต่อแรก คือ การได้ลองทำอะไรใหม่ๆ เท่ากับเป็นการพาตัวเองไปต่อยอดความรู้ พัฒนาทักษะใหม่ๆ ต่อที่สองคือ เป็นการเปิดโอกาสให้ได้ออกไปพบปะผู้คน ทำงานร่วมกับผู้บริหารเก่งๆ แถมยังได้สร้างเวทีให้ตัวเองได้โชว์ความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาคนในและนอกแผนก ซึ่งด้วยเนื้องานปกติอาจไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือให้เห็น

5.อดทนเป็นเลิศ คนเก่งหลายคนเลือกที่จะลาออกและหลบไปเลียแผลใจที่บริษัทใหม่ เมื่อพลาดหวังจากตำแหน่งที่หมายปอง แต่สำหรับคนกลุ่มนี้ พวกเขากลับเลือกที่จะใช้ความอดทนเข้าแลก เพื่อรอวันที่จะได้นั่งในตำแหน่งที่หวัง

6.ควบคุมอารมณ์เป็นเลิศ ใครๆ ก็ชอบทำงานกับคนที่มองโลกในแง่ดี ไม่ปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือเหตุผล ทั้ง 2 ข้อนี้จึงกลายเป็นลักษณะเด่นของคนกลุ่มนี้ พวกเขาควบคุมอารมณ์ได้ดีเสมอ ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ ทำให้ใครที่ได้ร่วมงานด้วยก็รู้สึกสบายใจ จนทำให้พวกเขามักกลายเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ เวลาเจ้านายคิดจะเลือกตำแหน่งเสมอ

7.ขอเม้าท์เฉพาะเรื่องดีๆ การนินทา คือ หายนะในทุกความสัมพันธ์ แต่บางครั้งก็มีข้อยกเว้นหากการนินทาลับหลังของคุณเป็นการนำเรื่องดีๆ ของคนอื่นมาพูดลับหลัง เหล่ามนุษย์เงินเดือนที่สร้างตัวจนรวยพิสูจน์แล้วว่า การที่พวกเขาชอบพูดเรื่องดีๆของคนอื่นลับหลังทำให้พวกเขากลายเป็นที่รัก และ เชื่อถือของคนอื่นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

ขอบคุณที่มา : www.businessinsider.com

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook