คนจน 11.43 ล้านคนเฮ !คลังเตรียมพร้อมแจก "บัตรสวัดิการแห่งรัฐ"

คนจน 11.43 ล้านคนเฮ !คลังเตรียมพร้อมแจก "บัตรสวัดิการแห่งรัฐ"

คนจน 11.43 ล้านคนเฮ !คลังเตรียมพร้อมแจก "บัตรสวัดิการแห่งรัฐ"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คลังประกาศผ่านคุณสมบัติผู้ลงทะเบียนคนจน ผ่านรับ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  11,431,681 คน เตรียมแจก 21 ก.ย. นี้ เปิดขั้นตอนการตรวจสอบสิทธิ แนะรีบ ตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่ 15 ก.ย. นี้เป็นต้นไป หากถูกตัดสิทธิ โดยไม่ตรงข้อเท็จจริงสามารถอุทธรณ์ได้ภายใน 29 ก.ย.60 นี้


วันนี้ 13 ก.ย. 2560 นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และนางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง ร่วมแถลงข่าวการประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ โดยผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (โครงการลงทะเบียนฯ) สามารถตรวจสอบสิทธิในการได้รับสวัสดิการของตัวเองได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ผู้ที่ผ่านการตรวจสอบสามารถไปรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรฯ) ได้ที่หน่วยงาน/สาขาที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติสามารถยื่นขออุทธรณ์ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 โดยมีสาระสำคัญได้ ดังนี้

1. ผลการตรวจสอบผู้ผ่านคุณสมบัติ
กระบวนการคัดกรองคุณสมบัติจาก 26 หน่วยงานตรวจสอบ ได้เสร็จสิ้นลงในวันที่ 8 กันยายน 2560 พบว่า จากผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนฯ ทั้งหมดจำนวน 14,176,170 คน มีผู้ที่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 11,431,681 คน และมีผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติจำนวน 2,744,489 คน

2. การประกาศผลผู้ผ่านคุณสมบัติ
กระทรวงการคลังจะเปิดให้ตรวจสอบผลการตรวจสอบคุณสมบัติได้ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2560 เป็นต้นไป ผ่าน 3 ช่องทาง ดังนี้

ช่องทางที่ 1 ตรวจสอบด้วยตัวเองหรือขอความอนุเคราะห์จากเจ้าหน้าที่ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ได้แก่

www.epayment.go.th
www.mof.go.th และ
www.fpo.go.th

โดยพิมพ์เลขบัตรประจำตัวประชาชน 13 หลักลงไปในช่องที่กำหนด ระบบจะแจ้งผลการตรวจสอบ

ช่องทางที่ 2 ตรวจสอบผ่านสายด่วน 6 หน่วยงาน ในเวลาราชการ ได้แก่
1) Call center ของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง 1359
2) Call center ของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
02-555-0555
3) Call center ของ ธนาคารออมสิน 1115
4) Call center ของ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 02-111-1111
5) Call center ของกรมบัญชีกลาง 02-270-6400 และ
6) เบอร์โทรศัพท์ของสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครทั้ง 50 เขต

ช่องทางที่ 3 ตรวจสอบ ณ ที่ทำการกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือหน่วยงานอื่นตามที่กรมการปกครองเห็นสมควร และสำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร โดยกระทรวงการคลังจะส่งรายชื่อแยกตามจังหวัด อำเภอ และตำบล ส่งให้กระทรวงมหาดไทย และแยกเป็นรายเขตส่งให้กรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการติดประกาศผู้มีสิทธิได้รับสวัสดิการต่อไป

3. กระบวนการอุทธรณ์คุณสมบัติ
ในกรณีผู้ลงทะเบียนที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและต้องการอุทธรณ์ สามารถขออุทธรณ์ให้ตรวจสอบคุณสมบัติใหม่ได้ภายในวันที่ 29 กันยายน 2560 โดยปฏิบัติตาม 7 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้

ขั้นตอนที่ 1 ผู้ลงทะเบียนตรวจสอบผลผ่าน 3 ช่องทางที่ได้กล่าวไปแล้ว และหากพบว่าคุณสมบัติไม่ผ่าน
ขั้นตอนที่ 2 บนหน้าจอแสดงผลจะระบุคุณสมบัติที่ไม่ผ่าน และหากผู้ลงทะเบียนต้องการอุทธรณ์ ให้กดปุ่ม “ยื่นคำขออุทธรณ์”
ขั้นตอนที่ 3 กรอกแบบฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์เพื่อขออุทธรณ์ โดยหลังจากกดปุ่มยื่นอุทธรณ์ ระบบจะถามวันเดือนปีเกิด เพื่อยืนยันตัวบุคคล พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ หลังจากนั้นให้กดปุ่มสีเหลืองด้านล่างของหน้าจอที่เขียนว่า “บันทึกและส่งคำขออุทธรณ์”
ขั้นตอนที่ 4 หลังจากกดปุ่มบันทึกและส่งคำขออุทธรณ์แล้ว ข้อความบนปุ่มสีเหลืองจะเปลี่ยนเป็น “อยู่ระหว่างการอุทธรณ์”
ขั้นตอนที่ 5 หลังจากปิดรับการยื่นขออุทธรณ์ กระทรวงการคลังจะรวบรวมข้อมูลส่งให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบคุณสมบัติตามคำขออุทธรณ์ต่อไป
ขั้นตอนที่ 6 หน่วยงานตรวจสอบใช้เวลา 1 สัปดาห์ในการตรวจสอบ และส่งผลการอุทธรณ์กลับมาให้กระทรวงการคลังภายในวันที่ 16 ตุลาคม 2560
ขั้นตอนที่ 7 กระทรวงการคลังประกาศผลการอุทธรณ์ในวันที่ 24 ตุลาคม 2560 ผ่าน 2 ช่องทางเท่านั้น ได้แก่ www.epayment.go.th และสายด่วน 6 หน่วยงาน หากผลการอุทธรณ์ยืนตามผล
ครั้งแรกคือไม่ผ่าน ผู้ยื่นอุทธรณ์จะไม่มีสิทธิได้รับบัตรสวัสดิการ ทั้งนี้ หากผู้อุทธรณ์ยังมีข้อสงสัยในผลการอุทธรณ์
ให้ติดต่อสอบถามหน่วยงานที่ตรวจสอบคุณสมบัตินั้น ๆ โดยตรง แต่หากผลการอุทธรณ์ปรากฎว่าผ่านคุณสมบัติ ผู้ยื่นอุทธรณ์จะได้รับบัตรฯ ต่อไป

4.บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ผู้มีสิทธิได้รับบัตรฯ สามารถไปรับบัตรฯ ได้ที่หน่วยงานรับลงทะเบียนที่ได้ไปลงทะเบียนไว้ ได้ตั้งแต่วันที่ 21 กันยายน 2560 เป็นต้นไป การให้ความช่วยเหลือผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะมี 2 หมวด ได้แก่

หมวดการลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือน ซึ่งประกอบด้วย
1) วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษา และวัตถุดิบเพื่อการเกษตร จากร้านธงฟ้าประชารัฐ โดยผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อคนต่อปี จะได้รับ 300 บาทต่อคนต่อเดือน ส่วนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท จะได้รับ 200 บาทต่อคนต่อเดือน และ
2) วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าที่กระทรวงพลังงานกำหนด 45 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน และ

หมวดการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วย
1) วงเงินค่าโดยสารรถเมล์/รถไฟฟ้า 500 บาทต่อคนต่อเดือน
2) วงเงินค่าโดยสารรถ บขส. 500 บาทต่อคนต่อเดือน และ
3) วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 500 บาทต่อคนต่อเดือน

ทั้งนี้ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ Call Center ของบัตรฯ ได้ที่ 02-109-2345 จำนวน 150 คู่สาย วันจันทร์ – วันศุกร์ ระหว่างเวลา 08.30 – 17.30 น.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook