พลังขับเคลื่อนการทำงานของ โน้ต-วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์

พลังขับเคลื่อนการทำงานของ โน้ต-วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์

พลังขับเคลื่อนการทำงานของ โน้ต-วิเศษ รังสีสิงห์พิพัฒน์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

โน้ต-วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เอชทูโฟลว์ จำกัด ผู้ผลิตเครื่องดื่มคุณภาพนวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่นอย่าง Slin Drink ที่มี 3 รสชาติให้เลือกดื่ม ไม่ว่าจะเป็น Slin Drink B-ERN รสเบอร์รี Slin Drink B-LOC รสชาผสมกาแฟ และ Slin Drink B-TOX รสพรุนผสมน้ำองุ่นขาว ซึ่งนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนี้ไม่เพียงแต่มุ่งมั่นในการทำงาน และใช้ชีวิตแบบ Work-Life Balance เท่านั้น หากยังได้นำคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตลอดจนคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี ประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ได้จากการพบปะผู้คน และการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงานด้วย


1. คำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี
ผมชอบคำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เพราะเป็นคำสอนที่สอนให้ดำเนินชีวิตบนทางสายกลาง ไม่ประมาท และอยู่กับปัจจุบัน ส่วนคำสอนของท่าน ว.วชิรเมธี ผมชอบที่ท่านสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน โดยท่านได้สมมุติเหตุการณ์ให้เข้าใจความหมายของคำสอนนี้ว่า สมมุติเราโทร.หาใครคนหนึ่งและถามคำถามเขา เราไม่ควรคิดเหนือจากคำตอบที่เขาตอบกลับมา หรือขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ก็ควรโฟกัสกับสิ่งที่ทำ ไม่นึกถึงเรื่องอื่น และไม่ควรกลัวในสิ่งที่ยังไม่เกิด

2. ท่องเที่ยว
วันหยุด คือ ช่วงเวลาที่คนทำงานต่างคิดถึง เมื่อมีเวลาว่าง ผมมักเลือกพักผ่อนด้วยการออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยผมได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ในทุกๆ ปีต้องได้ออกเดินทางไปยังเมืองใหม่ๆ ได้ไปพบเจอผู้คน และสภาพแวดล้อมใหม่ๆ และการเดินทางไปยังเมืองต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียงกัน ผมก็เลือกเดินทางด้วยการขับรถมากกว่านั่งเครื่องบิน เพราะจะได้เก็บรายละเอียดของสิ่งที่เจอระหว่างทาง ได้เห็นทิวทัศน์ และหากพบเจอร้านอาหารหรือร้านค้าที่น่าสนใจก็สามารถแวะไปดูได้ นอกจากนี้ ผมยังมีอีกสองกิจกรรมที่จะทำร่วมกับเพื่อนในทุกปี นั่นคือ เล่นสกีและดำน้ำ ซึ่งการดำน้ำเป็นกิจกรรมที่ทำให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เพราะสถานที่ที่ไปดำน้ำจะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์จึงไม่มีใครสามารถโทร.มารบกวนได้ และขณะดำน้ำจะโฟกัสเฉพาะเรื่องการหายใจ การเอาตัวรอดใต้น้ำ จะไม่คิดถึงเรื่องอื่นเลย

3. อาหาร
หลังจากทำงานเหนื่อยมาทั้งวัน สิ่งหนึ่งที่จะช่วยเติมพลังให้ผมได้ คือ อาหารรสชาติอร่อย โดยเฉพาะอาหารไทยและอาหารญี่ปุ่นซึ่งเป็นอาหารที่ผมชอบ และบรรยากาศร้านที่ดีก็ช่วยให้อาหารมื้อนั้นอร่อยยิ่งขึ้นด้วย ส่วนตัวชอบลองอาหารใหม่ๆ ชิมอาหารมาเยอะจึงค่อนข้างมั่นใจในความเป็นนักชิมของตนเอง ถ้าเป็นไปได้ทุกเย็นจะไปนั่งร้านอาหารเปิดใหม่ ซึ่งนอกจากจะได้ชิมอาหารว่าอร่อยมากน้อยแค่ไหนแล้ว ยังได้เปลี่ยนบรรยากาศในการรับประทานอาหารด้วย

4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะ
สถานที่สำคัญของเมืองนั้นๆ คือ สถานที่แรกที่คนส่วนใหญ่จะไปเยือนเมื่อเดินทางไปถึงเมืองต่างๆ แต่สำหรับผม พิพิธภัณฑ์ศิลปะ คือ สถานที่แรกที่ต้องไป และสามารถใช้เวลาในพิพิธภัณฑ์ได้ตลอดทั้งวันโดยไม่เบื่อ ผมชอบดูงานศิลปะสมัยใหม่ (Modern Art) เพราะทำให้ได้เห็นศิลปะในยุคเก่า และงานศิลปะร่วมสมัย (Contemporary Art) ซึ่งทำให้ได้รู้ถึงมุมมองของศิลปินที่มีต่อการเมืองในปัจจุบัน และเมื่อดูงานศิลปะทั้งสองอย่างนี้ควบคู่กันจะทำให้รู้ว่า บ้านเมืองของเขาขับเคลื่อนด้วยอะไร ผู้คนมีทัศนคติอย่างไร

5. บ้าน
การพักผ่อนอยู่ที่บ้านเป็นอีกหนึ่งวิธีชาร์จพลังของผม โดยกิจกรรมส่วนใหญ่ที่ทำขณะอยู่บ้าน คือ ดูหนัง และทำอาหาร โดยผมชอบแกะสูตรของอาหารที่ได้ชิมและจะทดลองทำตามสูตรที่แกะ นอกเหนือจากนี้ ผมยังชอบพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารและงานศิลปะกับคนในครอบครัวและคนที่สนิทใจ ซึ่งการได้นั่งพูดคุยกันจะทำให้ได้เห็นมุมมองของคู่สนทนาว่า คิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนั้นๆ ได้เห็นทั้งมุมมองที่คุ้นเคยและมุมมองใหม่ๆ ที่สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานได้


Text : Kritsana S.
Photo : กฤษฎา ศิลปไชย

www.smethailandclub.com
ศูนย์รวมข้อมูลเพื่อธุรกิจเอสเอ็มอี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook