พร้อมแล้วแน่นะ? 5 ปัจจัยที่คุณต้องสำรวจตัวเองก่อนคิดจะซื้อบ้าน

สวัสดีครับเพื่อน ๆ วันนี้ผมมีเคล็ดลับในการสำรวจตัวเองสำหรับผู้ที่กำลังลังเลใจว่าบ้านที่เราเช่าอยู่นั้นเราพร้อมที่จะเป็นเจ้าของมันจริง ๆแล้วหรือยัง การซื้อบ้านเรียกได้ว่าเป็นความฝันอันยิ่งใหญ่ของใครหลายๆ คน อีกทั้งยังถือว่าเป็นการลงทุนที่ดีและสำคัญที่สุดในชีวิตอีกด้วย นอกจากนี้โดยปกติแล้วมูลค่าของบ้านยังมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นตลอดเวลา ซึ่งในอนาคตยังสามารถขายต่อได้กำไร อย่างไรก็ตาม ความคิดที่จะซื้อบ้านอาจยังไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเสมอไปก็ได้นะครับ เพื่อนๆ ต้องคำนึงถึงการวางแผนทางการเงินระยะยาวในอนาคตด้วย วันนี้ผมจึงมีเคล็ดลับในการช่วยเพื่อนๆ สำรวจตัวเองว่าพร้อมที่จะซื้อบ้านแล้วหรือยัง จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่าครับ

1. พร้อมที่จะลงหลักปักฐานแล้วหรือยัง

คนที่ตัดสินใจซื้อบ้านมักมีเหตุผลว่าไม่อยากจะจ่ายเงินทิ้งไปเป็นค่าเช่าต่อเดือนแล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมา แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมครับว่าความจริงแล้วข้อดีของการเช่าบ้านคือความอิสระและความคล่องตัวทางการเงินอย่างหนึ่งในแง่ที่ว่าไม่ต้องเป็นหนี้ธนาคารถึง 15 หรือ 30 ปี ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีความคิดที่จะลงหลักปักฐานที่ใดที่หนึ่งอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป ผมแนะนำว่าการเช่าบ้านก็ยังสมเหตุสมผลนะครับ

2. มีทักษะงานช่างพื้นฐานไหม

เมื่อซื้อบ้านเพื่อน ๆ ก็จะมีอิสระในการตกแต่งและดูแลบ้านได้ตามใจ เพื่อน ๆ สามารถปูพื้นด้วยไม้ปาร์เกและวางโต๊ะไม้ไว้ในสวนหลังบ้าน แต่หากเครื่องปรับอากาศไม่ทำงานในเวลาเที่ยงตรงของเดือนเมษายน เพื่อน ๆ ก็จะไม่สามารถโทรศัพท์แจ้งเจ้าของบ้านเช่าให้นัดแนะช่างเพื่อเข้ามาซ่อมแซมโดยทันทีได้ การที่เพื่อน ๆ จะเป็นเจ้าของบ้านนั้นจำเป็นต้องคำนึงถึงลักษณะสภาพบ้านและอายุของบ้านที่เราจะซื้อในกรณีที่เป็นบ้านมือสอง อีกทั้งการดูแลรักษาและการซ่อมแซมสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านก็เป็นงานจุกจิกที่เพื่อน ๆ จำเป็นต้องพร้อมที่จะรับมือ

3. มีเงินเพียงพอในการดาวน์บ้านหรือไม่

โดยปกติแล้วการวางเงินดาวน์บ้านหากเพื่อน ๆ วางเงินในเปอร์เซ็นต่อราคาบ้านที่สูงหน่อย ดอกเบี้ยและการผ่อนชำระกับทางธนาคารก็จะน้อยลง ผมแนะนำให้เพื่อน ๆ ควรเก็บออมเงินเพื่อการดาวน์บ้านประมาณ 20% ของราคาบ้าน เนื่องจากหากน้อยกว่า 20% เพื่อน ๆ อาจต้องจ่ายส่วนต่างเองสูงขึ้นตอนกู้เงินกับธนาคารนะครับ

นอกจากการเก็บออมเงินดาวน์แล้ว เพื่อน ๆ ยังจำเป็นต้องเก็บออมเงินเผื่อค่าตกแต่งบ้าน ค่าซ่อมแซมฉุกเฉิน รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการขอติดตั้งประปาและมิเตอร์ไฟฟ้าของบ้านด้วยนะครับ

4. สามารถบริหารค่าใช้จ่ายเพื่อบ้านต่อเดือนได้ไหม

นี่มักจะเป็นปัญหาอีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้ซื้อบ้านเลยครับ ผู้ซื้อมักต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายสำหรับบ้านไม่ให้มากกว่า 28% ของรายได้รวมทั้งหมดต่อเดือน สิ่งสำคัญก็คือเมื่อเพื่อน ๆ อยากจะซื้อบ้าน เพื่อนๆ จำเป็นต้องมีเงินออมจำนวนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ อย่างเช่นค่าน้ำค่าไฟ ค่าซ่อมแซมบ้าน ฯลฯ และต้องมีเงินเก็บสำหรับอนาคตด้วยนะครับ

5. ถึงเวลาซื้อบ้านแล้วหรือยัง

ในช่วงภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ราคาบ้านรวมไปถึงดอกเบี้ยในการกู้ซื้อบ้านมักถูกลง ทั้งหมดนี้อาจเอื้ออำนวยให้เพื่อนๆ รู้สึกว่า “ถึงเวลาซื้อบ้านแล้ว” แต่ผมอยากบอกเพื่อน ๆ ว่าการตัดสินใจซื้อบ้านเป็นเรื่องใหญ่และควรซื้อเมื่อเรามีความพร้อมจริง ๆ เมื่อเราวางแผนจะลงหลักปักฐาน มีฐานะทางการเงินที่มั่นคง มีเงินออมเพียงพอสำหรับการดาวน์บ้าน และพร้อมที่จะรับผิดชอบภาระในการบำรุงรักษาซ่อมแซมบ้าน ถ้าเพื่อน ๆ มีปัจจัยเหล่านี้ครบทั้งหมดก็เดินหน้าต่อเลยได้ครับ นี่แหละเวลาที่เหมาะสมในการซื้อบ้านจริงๆ

แม้ว่าการเป็นเจ้าของบ้านคือหนทางไปสู่ความมั่นคงของชีวิตและทรัพย์สิน แต่ในขณะเดียวกันก็ควรสำรวจตัวเองให้มั่นใจก่อนว่าสถานะทางการเงินของเพื่อน ๆ นั้นพร้อมที่จะมีพันธะเหล่านี้แล้วหรือยัง

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหนึ่งหลักต้องวางแผนกันอย่างดีเลยทีเดียว โดยเฉพาะสภาพคล่องทางการเงินและการกู้ยืมสินเชื่อจากธนาคาร หากเพื่อน ๆ กำลังวางแผนจะซื้อบ้านก็อย่าลืมศึกษาเยอะๆ นะครับผม

ขอบคุณข้อมูลจาก GoBear.com/th