ขสมก. แจง E-Ticket กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐล่าช้าเพราะปัญหาระบบเชื่อมต่อสัญญาณ
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพชี้แจงการติดตั้งระบบ E-Ticket เพื่อใช้กับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ชี้เกิดความล่าช้าเนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อระบบสัญญาณและข้อมูล
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กระทรวงคมนาคม ชี้แจงกรณีสื่อมวลชนเสนอข่าวนายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ ขสมก. ระบุว่า ขสมก. ว่าจ้าง บริษัท ช.ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) ซึ่งชนะการประมูลประกวดราคาการติดตั้งระบบ E-Ticket อุปกรณ์ควบรถโดยสารประจำทาง โดยดำเนินการไม่เป็นไปตามสัญญาในประเด็นต่างๆ ดังนี้
1. เงื่อนไขที่ระบุว่าภายในวันที่ 13 ตุลาคม 2560 จะต้องติดตั้งระบบ E-Ticket ให้แล้วเสร็จ จำนวน 100 คัน ปรากฏว่าใช้งานได้เพียง 57 คัน โดยอุปกรณ์ควบรถและเครื่องอ่านบัตรใช้งานไม่ได้ ทำให้ประชาชนและพนักงานเกิดความสับสน
2. บริษัทฯ ได้ติดตั้งระบบฯ ถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2560 ประมาณ 190 คัน แต่ใช้งานไม่ได้ โดยทยอยติดตั้งครบจำนวน 800 คัน ภายในวันที่ 15 ธันวาคม 2560 และให้พนักงานเก็บค่าโดยสารฉีกคูปองให้ผู้โดยสารแทนเครื่องอ่านบัตร รวมทั้งใช้อุปกรณ์มือถือ (Mobile Phone) ควบคู่กัน แต่ก็ใช้งานไม่ได้
3. ระบบฯ ใช้งานไม่ได้ ทำให้เกิดปัญหาในการตรวจสอบจำนวนผู้โดยสาร และการคำนวณเพื่อคิดค่าตอบแทนให้กับพนักงานประจำรถ และรายได้ค่าโดยสารขององค์การ เนื่องจากข้อมูลจำนวนผู้โดยสารไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้
4. เงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) กำหนดไว้ว่า หากอุปกรณ์ระบบ E-Ticket ขัดข้อง บริษัทฯ จะต้องนำช่างมาแก้ไขภายใน 2 ชั่วโมง แต่มีการแก้ไขสัญญาเดิมให้เป็น 3 ชั่วโมง ซึ่งขัดกับ TOR ที่กำหนดไว้ อาจมองได้ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทคู่สัญญา
ขสมก. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินการดังกล่าว และขอชี้แจง ออกมาดังนี้
1. ตามสัญญาบริษัทฯ จะต้องส่งมอบงานงวดที่ 1 ในวันที่ 13 ตุลาคม 2560 จำนวน 100 คัน แต่ใช้งานได้เพียง 57 คัน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อระบบสัญญาณและข้อมูล ซึ่งบริษัทฯ ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายน 2560 จะมีรถโดยสารใช้งานระบบฯ ได้ประมาณ 350 คัน
2. ตามสัญญาบริษัทฯ จะต้องส่งมอบงานงวดที่ 2 ในวันที่ 12 ธันวาคม 2560 จำนวน 700 คัน รวมเป็น 800 คัน เนื่องจากการยกเลิกโครงการรถเมล์ฟรีจากภาษีประชาชน จำนวน 800 คัน เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 ขสมก. จึงได้ทำความตกลงกับบริษัทฯ ให้ติดตั้งเครื่องอ่านบัตรบนรถโดยสารให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2560 หากบริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการได้ บริษัทฯ จะนำอุปกรณ์ Mobile Phone ให้ขสมก. ใช้แทนชั่วคราว และหากบริษัทฯ ไม่สามารถจัดหาอุปกรณ์ Mobile Phone บริษัทฯ จะรับผิดชอบชดใช้ค่าโดยสารตามจำนวนที่ใช้จริงให้ ขสมก. ในกรณีที่มีผู้โดยสารใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขสมก. และบริษัทฯ ตกลงให้พนักงานเก็บค่าโดยสารฉีกคูปองให้กับผู้โดยสารเพื่อเป็นหลักฐานการใช้บริการ เพื่อมิให้เกิดผลกระทบกับผู้โดยสารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
3. การใช้อุปกรณ์ Mobile Phone หรือการให้พนักงานเก็บค่าโดยสารฉีกคูปองให้กับผู้โดยสารที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อใช้เป็นหลักฐานการใช้บริการ เมื่อรถกลับถึงอู่จะมีเจ้าหน้าที่บัญชีคำนวณค่าโดยสาร ตรวจสอบจำนวนการใช้อุปกรณ์ Mobile Phone หรือบัตรรถ ซึ่งในแต่ละครั้งของการใช้พนักงานจะได้รับค่าตอบแทนเช่นเดียวกับการจำหน่ายตั๋วตามปกติ
4. ขสมก. ได้ส่งร่างสัญญาให้อัยการสูงสุดตรวจร่างพร้อม TOR โดยใน TOR กำหนดข้อสงวนสิทธิ์ไว้ว่า ความเห็นของอัยการสูงสุดเป็นที่สิ้นสุด ซึ่งอัยการสูงสุดได้ปรับเวลาการส่งช่างเข้าซ่อมแซมระบบฯ จาก 2 ชั่วโมง เป็น 3 ชั่วโมง ขสมก. จึงปฏิบัติตามความเห็นของอัยการสูงสุด และจะดำเนินการตามเงื่อนไขสัญญาอย่างเคร่งครัดต่อไป