พนักงานบริษัทมือใหม่จะใช้เงินอย่างไรดีให้เหลือถึงสิ้นเดือนและมีเงินเก็บ
พนักงานบริษัทมือใหม่หลายๆ คนคงเคยเจอกับคำถามที่ว่า “ทำยังไงให้มีเงินเหลือพอใช้ถึงสิ้นเดือน” เพราะการก้าวจากรั้วมหาลัยเข้าสู่วัยทำงานนั้นย่อมมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่จะต้องให้ตรงต่อเวลา เพราะหากเข้าทำงานสายขึ้นมา ไม่จบแค่การตัดคะแนนเหมือนตอนเรียนแน่ๆ และนอกจากจะมีให้พอใช้ถึงสิ้นเดือนแล้ว สมัยนี้ยังต้องมีเงินเก็บและเงินสำหรับลงทุนอีก เพื่อเพิ่มความมั่นคงกับการเงินให้กับเรา หลายอย่างมากมายขนาดนี้จะจัดการอย่างไรดีให้ทุกอย่างลงตัว Moneyguru จึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝากเพื่อให้น้องๆ มือใหม่ทั้งหลายได้ใช้เป็นแนวทางกัน
วิธีทำให้มีเงินพอใช้ถึงสิ้นเดือนและมีเงินเก็บสำหรับพนักงานบริษัทมือใหม่
คำนวณรายจ่ายประจำที่ต้องจ่ายทุกเดือน
- เริ่มแรกกันที่เราต้องรู้ว่ารายจ่ายประจำที่เราต้องจ่ายทุกเดือนมีอะไรบ้าง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น เพื่อว่าเราจะได้รู้ว่า ค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่เราใช้จ่ายมากจนเกินไปอันเป็นเหตุให้เราเงินเดือนไม่พอใช้นั่นเอง และเมื่อรู้แล้วว่าส่วนไหนที่เราใช้จ่ายเยอะ ก็ให้พิจารณาลดหรืองดการใช้จ่ายในส่วนนี้ก็ได้หากว่าไม่ใช่สิ่งจำเป็น เพราะการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยคือประตูบานแรกไปสู่การที่เงินเดือนไม่พอใช้นั่นเอง
วางแผนการใช้จ่ายแบ่งเงินออกเป็นส่วนต่างๆ
- หลังจากรู้ค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้ว เราก็ต้องมาวางแผน โดยให้เราแบ่งเงินเดือนออกเป็นส่วนต่างๆ เช่น ส่วนของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ค่าใช้จ่ายประจำรายเดือน เงินเก็บ เงินสำหรับลงทุน เป็นต้น เมื่อแบ่งเงินออกเป็นก้อนต่างๆ ออกแล้ว ก็จะทำให้ง่ายต่อการใช้จ่ายของเรา เพราะเราได้มีการกำหนดขอบเขตของเงินไว้แล้ว หากเราใช้ส่วนไหนเกินเราก็จะรู้ได้ในทันที
ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด
- เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะเหลือเงินถึงสิ้นเดือน หรือหากเหลือเราก็อาจจะไม่มีเงินเก็บ เพราะว่าเราไม่ทำตามแผนที่เราวางไว้นั่นเอง ซึ่งก็จะส่งผลให้เรากลับเข้าไปสู่วังวนเดิมๆ ของเรา ซึ่งคงไม่ดีแน่ๆ เพราะเราลงทุนวางแผนไว้อย่างดีเราก็ต้องบังคับตัวเองให้ค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับแผนที่วางไว้ และวิธีการคิดและวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน นี่แหละที่จะสามารถนำไปต่อยอดทำงานได้ในอนาคต
ไม่เป็นหนี้ หากมีหนี้ให้รีบใช้ให้หมด
หากมีเงินพอใช้เราก็คงห่างไกลหนี้ แต่หากเป็นหนี้ขึ้นมาก็คล้ายๆ กับการที่เงินเดือนเราถูกหักไปทุกเดือน ก็เพราะว่าต้องหักไปใช้หนี้นั่นเอง ทำให้ด้วยเงินเดือนที่มีอยู่จากพอใช้ก็จะกลายเป็นไม่พอใช้ขึ้นมาก็ได้ และการเป็นหนี้ที่ว่านี้ก็เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้การผ่อนสินค้า เป็นต้น
หนี้เหล่านี้ล้วนใกล้ตัว และหากเราเผลอลืมตัวไปเราก็เป็นหนี้ได้ง่ายๆ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ห้ามใช้จ่ายส่วนนี้นะครับ เพียงแต่ขอให้คิดและวางแผนให้ดีก่อนเพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องมาเดือดร้อนในอนาคต และข้อสำคัญที่สุดเมื่อเราเป็นหนี้ ให้เรารีบเคลียร์หนี้ให้หมดให้เร็วที่สุดเพื่อที่เราจะได้ไม่เสียดอกเบี้ยมาก เพราะดอกเบี้ยจากหนี้นั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันลดลงหากว่าเรายังชำระหนี้ไม่หมด
ไม่ใช้จ่ายเกินตัว พยายามใช้เท่าที่เรามีกำลังจ่ายเท่านั้น
อีกสิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้คือฐานะของเราเอง เพราะไม่ว่าจะมีเงินเดือนมากมายขนาดไหน หากเรายังใช้จ่ายเกินฐานะ ไม่ว่าอย่างไรเงินเดือนก็คงไม่พอใช้แน่ๆ ดังนั้นเราจึงควรใช้จ่ายแต่พอดีกับฐานะของเรา ถามว่าแบบไหนพอดีกับฐานะของเรา ก็ให้ลองคำนวณจากค่าใช้จ่ายรายวันปกติของเราครับ
หากว่าการใช้จ่ายเพียงครั้งเดียวครั้งไหนเกินค่าใช้จ่ายรายวันปกติของเรานั่นก็อาจจะเรียกได้ว่า เราเริ่มใช้เงินเกินฐานะของตัวเองแล้วล่ะครับ ก็ต้องเริ่มระวังการใช้ให้มากขึ้น แต่หากว่าอยากได้ของที่แพงมากๆ ก็ให้ใช้วิธีประหยัดและเก็บเงินเพื่อเอาไปซื้อครับ
ถ้าให้ดีที่สุด การหารายได้เสริมก็จะช่วยให้เรามีเงินมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้เราสามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจมากขึ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ พนักงานบริษัทมือใหม่นะครับ