คนรวยเพียง 1% ถือครองความมั่งคั่ง 'ครึ่งหนึ่ง' ของโลก
คนรวยเพียง 1% ได้ถือครองความมั่งคั่งเป็นจำนวนครึ่งหนึ่งของโลกแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม
การสำรวจของเครดิต สวิส เมื่อปี 2008 ระบุว่า คนรวยที่มีจำนวนน้อยมากในโลกถือครองความมั่งคั่งราว 42.5% และในทุกๆ ปีช่องว่างก็ขยายตัวมากขึ้นตามลำดับ กระทั่งในปี 2017 ช่องว่างดังกล่าวได้ขยายตัวไปถึง 50% เรียบร้อยแล้ว
เมื่อมีการสำรวจลงไปเพิ่มเติมพบว่า ความยากจนกระจุกอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ ประเทศในแถบทวีปแอฟริกา รวมถึงประเทศอินเดีย ซึ่งมีรายได้ต่ำกว่า 10,000 ดอลลาร์ต่อปี คิดเป็นสัดส่วน 2.7% ของความมั่งคั่งทั่วโลก
ในขณะเดียวกันในปี 2016 ที่ผ่านมา มีจำนวนเศรษฐีที่มีทรัพย์สินมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป มีจำนวนมากถึง 36 ล้านคน โดยความมั่งคั่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก แต่ก็จะมีบางส่วนอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร และสิ่งที่น่าคิดต่อจากนี้ก็คือว่า หากสหราชอาณาจักร เดินออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือ Brexit ก็น่าจะส่งผลต่อจำนวนมหาเศรษฐีในสหราชอาณาจักรมีจำนวนลดลง
อย่างไรก็ดีการรายงานของเครดิตสวิสถือได้ว่าสอดคล้องกับอ็อกซ์แฟม (Oxfam) หรือองค์การระหว่างประเทศเพื่อขจัดปัญหาความยากจน ได้เคยออกรายงานในทำนองเดียวกัน เมื่อปี 2015 โดยระบุว่า คนรวยในระดับเศรษฐีใหญ่ของโลกเพียง 1% จะเข้ามาถือครองความมั่งคั่งของโลก 50% ในปี 2016
แน่นอนว่า ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดมากขึ้นในทุกๆ ปี ซึ่งประเด็นนี้ผู้นำของรัฐบาลแต่ละประเทศจำต้องหาทางออกถึงเรื่องนี้เป็นการด่วน