การบริหารจิตใจยามภาวะตลาดผันผวน

เป็นที่รู้ดีอยู่แล้วว่าการลงทุนในตลาดหุ้นนั้น จะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจในระยะยาว ซึ่งการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นทางเลือกที่ดี และประเทศไทยยังมีอนาคต อย่างไรก็ตามสิ่งที่ตามมากับการลงทุนในตลาดหุ้นไทย คือ ความผันผวน ซึ่งแน่นอนว่าคนยุคนี้ จะต้องเจอกับความผันผวนที่สุดโต่งกว่าคนยุคก่อน เพราะนโยบายการเงินสมัยนี้ แตกต่างจากสมัยก่อนค่อนข้างมาก ยกตัวอย่างเช่น นโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบ (QE) นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหนักๆ นโยบายการเคลื่อนย้ายเงินทุนเสรี และความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ เช่น น้ำมัน ถ่านหิน ทองคำ สินค้าเกษตร ต่างส่งผลกระทบให้ตลาดหุ้นผันผวนได้ทั้งสิ้น

ในบทความนี้นิจึงมีเทคนิคในการบริหารจิตใจยามภาวะตลาดผันผวนมาฝากกันค่ะ

1.ต้องเข้าใจว่าความผันผวนเป็นเรื่องปกติของการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพราะตลอดเส้นทางการลงทุนนั้น คุณย่อมจะเจอกับความผันผวนในตลาดหุ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยสาเหตุทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นทัศนคติที่ถูกต้องต่อความผันผวนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากเข้าใจว่าความผันผวนเป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะต้องพบเจอในการลงทุน จะทำให้เราไม่ตกใจกลัว และมีสติตั้งรับกับความผันผวนได้ดีขึ้น เมื่อสติมา ปัญญาเกิด อาจทำให้คุณมองเห็นโอกาสการลงทุนที่ดีขึ้นได้ด้วย

2.การมีระบบการลงทุนที่ดี เช่น การทำ DCA หรือ Dollar Cost Average จะช่วยขจัดอารมณ์ในการลงทุนลงไปได้ ด้วยวิธีนี้ ในช่วงตลาดขึ้น (ราคาแพง) เราจะได้รับจำนวนหน่วยลงทุนหรือจำนวนหุ้นที่น้อย แต่ในขณะที่ตลาดลง (ราคาถูก)เราจะได้รับจำนวนหน่วยลงทุนหรือจำนวนหุ้นที่มาก ซึ่งเมื่อถัวเฉลี่ยแล้วเราจะได้ต้นทุนที่ดี

3.มีการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม เพราะดังที่เคยได้กล่าวไปแล้วว่า ‘ไม่มีสินทรัพย์ใดที่จะชนะตลาดตลอดไป และไม่มีสินทรัพย์ใดที่จะแพ้ตลาดตลอดไปเช่นกัน’ เนื่องจากตลาดมีวัฏจักรแห่งความผันผวนในแต่ละช่วงที่แตกต่างกัน โดยแต่ละตลาดและกลุ่มธุรกิจจะสลับสับเปลี่ยนกันเป็นผู้นำตลาดในแต่ละช่วงอย่างรวดเร็ว นักลงทุนจึงควรกระจายการลงทุนไปยังแต่ละตลาด หรือแต่ละธุรกิจเพื่อลดความเสี่ยง รวมถึงลดโอกาสการขาดทุนที่ขึ้นอยู่กับตลาดใดตลาดหนึ่งลงด้วย

4.อย่าปล่อยให้จิตใจหวั่นไหวไปตามสภาพอารมณ์ของตลาด เพราะเทรนด์การลงทุนนั้นมีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เราจึงมีหน้าที่เรียนรู้และติดตามข้อมูลข่าวสารอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตามอย่าปล่อยให้อารมณ์ความรู้สึกในตลาด ทั้งในแง่ดีและแง่ร้าย มาชี้นำทัศนคติในการลงทุนของเรา จนประเมินหรือตัดสินใจผิดพลาดได้

5.พัฒนาการลงทุนของตัวเองอยู่เสมอ เพราะหากเรามีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน มีกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสม และมีการติดตามและวัดผลการลงทุนของเราอย่างต่อเนื่องแล้ว เราก็จะมีจิตใจที่นิ่งและสามารถรับมือกับความผันผวนในการลงทุนได้ดีมากขึ้นด้วยค่ะ

สามารถแลกเปลี่ยนประสบการณ์การวางแผนการเงิน สามารถส่ง email มาได้ที่ nipapuntalk@hotmail.com  แล้วพบกันในตอนต่อไปค่ะ

ผู้เขียน โค้ชนิ  นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® เจ้าของผลงาน pocket book ‘เปลี่ยนชีวิตสู่ความมั่งคั่งด้วยการวางแผนการเงิน’  ‘มีเงินล้านด้วยการวางแผนการเงิน’  ‘อยากรวยต้องรู้จักวางแผนการเงิน’ ‘รวยทะลุเป้า’ ‘12 ขั้นตอนสู่...นักวางแผนการเงิน’ และ ‘ขายทะลุเป้า เมื่อขายแบบที่ปรึกษา’