“ไม่มีคำว่าสายเกินไป” สำหรับการเริ่มต้นออมเงินเก็บเงิน

“ไม่มีคำว่าสายเกินไป” สำหรับการเริ่มต้นออมเงินเก็บเงิน

“ไม่มีคำว่าสายเกินไป” สำหรับการเริ่มต้นออมเงินเก็บเงิน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ถึงไม่ฟุ่มเฟือย แต่ก็เต็มที่กับสิ่งที่ชอบ ใช้จ่ายไม่ค่อยคิดหน้าคิดหลัง รวมถึงการนำเอาเงินในอนาคตมาใช้ (บัตรเครดิต) ใครเป็นแบบนี้ มั่นใจได้เลยว่า ไม่มีเงินเก็บเงินออมแน่นอน

ยิ่งถ้าเป็น “มนุษย์เงินเดือน” อย่างเราๆ แค่ขอให้ใช้จ่ายอย่าเกินเงินเดือนที่ได้รับก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว และแบบนี้จะมีเงินเก็บเหมือนคนอื่นๆ ได้ตอนไหน?

เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้เลย ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการเริ่มต้นของคำว่า ออมเงินและเก็บเงิน

หากใครยังตั้งต้นไม่ได้ งั้นถือฤกษ์ประเดิมชัยกับวันออมแห่งชาติ (ของตัวเอง) ตั้งแต่วันนี้เลยยิ่งดี หรือจะเอาไว้เริ่มต้นในวันที่ได้รับเงินเดือนก้อนใหม่ก็ได้ ถ้าหากพร้อมแล้ว มาดูวิธีการออมเงินเก็บเงินกันได้เลย

“ออม” ก่อนใช้ หักไว้ทันที

เมื่อถึงสิ้นเดือน เงินเดือนที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงเข้าในบัญชีให้รีบแบ่งเงินส่วนหนึ่งเก็บ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารอีกบัญชีทันที และส่วนที่เหลือนั้นค่อยนำมาแบ่งเป็นรายจ่ายต่างๆ เช่น รายจ่ายส่วนตัว ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าบ้าน ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ รอสำรวจดูว่าเราน่าจะสามารถแบ่งหรือวางแผนที่จะออมเงินในแต่ละเดือนได้กี่เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน อาจจะเริ่มต้นที่ 10% ก่อนก็นับว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี  แล้วค่อยขยับเป็น 20-30% ตามกำลังความสามารถ เพียงเริ่มแบ่งเงินออมก่อนใช้ก็ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับอนาคตในวันข้างหน้าแล้ว

“เปิด” บัญชีเพื่อออม บัญชีเพื่อใช้

จากหลักในการออมข้อที่ 1 เงินเดือนออก แบ่งเก็บออมก่อนใช้ เมื่อแบ่งเงินออม และเงินเพื่อใช้ ออกตามกำลังของเราเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เปิดบัญชี ทั้งนี้เพื่อเป็นการจัดระเบียบในการใช้เงินในบัญชี ซึ่งบัญชีแต่ละบัญชีนั้นก็จะมีความสำคัญที่แตกต่างกันออกไป

บัญชีเพื่อใช้ เป็นการแบ่งเพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สามารถฝากถอน โอนเงิน จ่ายบิล ค่าใช้จ่าย ได้ตลอดเวลา

บัญชีเพื่อออม มองหาสถาบันการเงินที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูงไม่ซ่อนเงื่อนไขเปิดบัญชีเพื่อออมนี้ไว้ และอาจจะแบ่งบัญชีเพื่อออมนี้ เป็นระยะสั้น กลาง ยาว เพื่อเป็นการวางแผนการเงินในอนาคตของเราได้ดีขึ้น เช่น บัญชีออมระยะสั้น เป็นการออมเพื่อต้องการใช้เงินฉุกเฉินสำหรับตกงาน เป็นต้น  บัญชีออมระยะกลาง เพื่อออมเงินไว้ใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็นหรือเป็นการออมเพื่ออนาคตข้างหน้า เช่น การซื้อบ้าน คอนโด รถ เงินในบัญชีออมระยะกลางนั้นมากกว่าออมแบบระยะสั้นนั่นเอง บัญชีออมเงินระยะยาวนั้นถือว่าสำคัญมากๆ  เป็นการวางแผนในการออมเงินว่าอีก 30-40 ข้างหน้า เพื่อวัยเกษียณเพื่อจะได้ไม่เป็นภาระของลูกหลาน จะได้มีเงินใช้จ่ายได้อย่างสบาย

แนะนำเพิ่มเติม ให้เปิดเป็นบัญชีของธนาคารเดียวกัน เพื่อประหยัดค่าธรรมเนียมในการโอนเงินและสะดวกสบาย ไม่ยุ่งยาก หากจำเป็นที่จะต้องไปติดต่อทำธุรกรรมกับทางธนาคาร

ลงทุนให้งอกเงย

ต่อจากหลักการออมข้อที่ 2 เมื่อเปิดและแบ่งบัญชีเพื่อออม และเพื่อใช้เรียบร้อยแล้ว หลักของการลงทุนจะเข้ามา ควรศึกษาหรือมองหาวิธีที่จะทำให้เงินที่ออมนั้นงอกเงยเพิ่มดอกเพิ่มผล เช่น การลงทุนหุ้น หรือลงทุนในกองทุนรวม ที่มีความเสี่ยงน้อย และมีผลประโยชน์ที่น่าสนใจ

สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องมีเรื่องภาษี ซึ่งเราสามารถนำเงินออมนี้ไปใช้สิทธิในเรื่องของการลดหย่อนภาษีในกองทุน LTF, RMF หรือแม้กระทั่งการซื้อประกันชีวิตในลักษณะของการออมเงินระยะยาวพร้อมให้ความคุ้มครอง เป็นต้น

อย่างไรก็ดีทุกการลงทุนมีข้อดีและข้อเสียในตัวเสมอ เราควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

เพียงเท่านี้ การเริ่มต้นการออมไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป  และไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้น “ออม- เปิด-ลงทุน” คุณก็ทำได้ เพื่อการวางแผนดีชีวิตให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook