ทำไม Disney ถึงหวนซื้อกิจการ 21st Century Fox อีกรอบ!?

ทำไม Disney ถึงหวนซื้อกิจการ 21st Century Fox อีกรอบ!?

ทำไม Disney ถึงหวนซื้อกิจการ 21st Century Fox อีกรอบ!?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ดิสนีย์ (Disney) ผู้นำความบันเทิงจากฮอลลีวูด และทเวนตี้ เฟิร์ส เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ (21st Century Fox) บริษัทแม่ของฟ็อกซ์ ได้กลับมาเปิดการเจรจาอีกครั้ง ภายหลังการเจรจารอบแรกไม่ลงตัว

อ่านเพิ่มเติม: 'Disney' เจรจาซื้อ '21st Century Fox' ขยายอาณาจักรความบันเทิง

การเจรจาระหว่างดิสนีย์และฟ็อกซ์ คาดว่าจะเป็นไปตามเงื่อนไขเดิม นั่นคือ ดิสนีย์จะได้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของแฟรนไชส์ความบันเทิงของฟ็อกซ์ นั่นหมายความว่า ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ในเครือมาร์เวลฉบับภาพยนตร์ที่อยู่ในมือของทเวนตี้ เซ็นจูรี ฟ็อกซ์ จะกลับคืนสู่มือของมาร์เวล (Marvel) และบริษัทแม่อย่างดิสนีย์ ทำให้ในอนาคตอันใกล้ มีโอกาสที่ผู้ชมจะได้เห็นภาพยนตร์ X-Men, Fantastic Four ไปจนถึง Deadpool ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของมาร์เวล

ข้อมูลจากแหล่งข่าวในการซื้อขายกิจการครั้งนี้ เปิดเผยว่า ดิสนีย์มีความต้องการที่จะให้การดำเนินการซื้อฟ็อกซ์ให้เป็นไปอย่างเงียบเชียบที่สุด และพยายามที่จะไม่ให้มีข้อมูล ตัวเลข หรือเงื่อนไขในการซื้อขายหลุดออกมาสู่สาธารณะ

อย่างไรก็ดียังไม่มีการยืนยันว่า เพราะเหตุใดการเจรจารอบแรกระหว่างดิสนีย์และฟ็อกซ์ถึงล้มเหลว แต่เรื่องดังกล่าวเชื่อว่า อาจเป็นเพราะเงื่อนไขในการเจรจาบางประการที่ไม่ลงตัว รวมไปถึงการที่ฟ็อกซ์ได้รับความสนใจจากคอมคาสต์ (Comcast) และโซนี่ (Sony) จึงทำให้ฟ็อกซ์อยู่ในสถานะที่สามารถเลือกข้อเสนอที่ดีที่สุดได้อย่างอิสระ

สิ่งที่ Disney ได้รับมิได้มีแค่ Fantastic Four, X-Men และ Deadpool

starwarsGetty Imagesเพื่อเติมเต็มในการถือครองสิทธิ์ STAR WARS จึงทำให้ Disney ต้องซื้อ Fox

ประเด็นที่น่าสนใจยังไม่หมดเพียงเท่านี้ อย่างที่ทราบกันดีว่า ดิสนีย์มีความพยายามที่ต้องการจะดึง Fantastic Four, X-Men ไปจนถึง Deadpool ให้กลับมาอยู่ในมือมาร์เวล เพื่อเป็นงานง่ายสำหรับการสร้างจักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล ที่เรียกว่า Marvel Cinematic Universe แต่เหตุผลลึกๆ ในการซื้อฟ็อกซ์ ยังมีเหตุผลอื่นเพิ่มเติม

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเงื่อนไขในปัจจุบันของดิสนีย์เกี่ยวกับภาพยนตร์ชุด STAR WARS จะยังมีผลเฉพาะไตรภาคใหม่ 7-9 เท่านั้น มิได้นับรวมเอพพิโซด 1-6 ซึ่งเป็นไตรภาคเดิมของ STAR WARS ที่อยู่ภายใต้การดูแลและจัดจำหน่ายโดยฟ็อกซ์ ซึ่งสัญญาฉบับเดิมระหว่างลูคัสฟิล์มและฟ็อกซ์ จะสิ้นสุดลงในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 

อย่างไรก็ตาม แม้สัญญาระหว่างลูคัสฟิล์มและฟ็อกซ์จะสิ้นสุดในปี 2020 ก็จริง ทว่า STAR WARS Episode IV: A New Hope หรือเอพพิโซดที่ 4 ลิขสิทธิ์ทั้งหมดก็จะยังคงเป็นของฟ็อกซ์ต่อไป เนื่องจากว่า ในช่วงที่สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ ฟ็อกซ์เป็นผู้ออกเงินทุนสำหรับการสร้างภาพยนตร์ทั้งหมด

นั่นจึงเป็นข้อผูกมัดกลายๆ ว่า ถ้าหากดิสนีย์ต้องการถือลิขสิทธิ์เกี่ยวกับ STAR WARS ทั้งหมด จะต้องซื้อฟ็อกซ์ไปเป็นกรรมสิทธิ์

เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าหากการเจรจาระหว่างดิสนีย์และฟ็อกซ์ลุล่วง ภาพยนตร์แฟรนไชส์ดังอย่าง Avatar ก็จะเปลี่ยนมือมาอยู่ภายใต้การดูแลของดิสนีย์ทันที ซึ่งตรงนี้สามารถเพิ่มมูลค่าการตลาด ไปจนถึงการเป็นธีมปาร์คภายในสวนสนุก Disneyland เรียกว่าดิสนีย์รอฟันกำไรเน้นๆ ในระยะยาวได้เลย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook