ค้นหาคำตอบทำไม 'Facebook' จึงเป็นสรวงสวรรค์ของคนทำงาน
จากผลสำรวจของ Glassdoor เว็บไซต์รีวิวสถานที่ทำงานจากมุมมองของพนักงาน ที่ยกให้เฟซบุ๊ก (Facebook) เป็นบริษัทที่น่าทำงานด้วยมากที่สุดในปี 2018 ในบทความชิ้นนี้เรามาสำรวจกันว่า เพราะเหตุใดผู้ให้บริการด้านเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถึงได้รับการยอมรับและสามารถดึงดูดให้คนอยากทำงานด้วยมากที่สุด
อ่านเพิ่มเติม: ร้านเบอร์เกอร์ In-N-Out แซงหน้า Google บริษัทน่าทำงานปี 2018 -ส่วน Facebook ยังคงเป็นที่หนึ่ง
1. พนักงานได้รับการยอมรับและมีคุณค่าเมื่อทำงานที่เฟซบุ๊ก
เชอริล แซนด์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ให้สัมภาษณ์กับ Glassdoor โดยบอกว่า สิ่งสำคัญในการทำงานกับเฟซบุ๊ก นั่นคือ การให้พนักงานพาตัวตนของตัวเองมาทำงาน ซึ่งตรงนี้ทำให้พนักงานรู้สึกว่าไม่ได้ถูกบีบบังคับจากองค์กร ทำให้พนักงานมีอิสระ และมีไฟในการทำงานไปในตัว
พร้อมกันนี้การทำงานในเฟซบุ๊ก จะมีการสนับสนุนให้พนักงานได้ฝึกทักษะต่างๆ ที่พนักงานแต่ละคนนั้นให้ความสนใจ เพื่อเสริมคมจุดแข็งของตัวเอง ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ อดีตพนักงานของเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า วัฒนธรรมภายในองค์กรของบริษัทแห่งนี้ สนับสนุนให้พนักงานสามารถโต้เถียง หรือตั้งคำถามกับหัวหน้าหรือผู้บริหารได้ ซึ่งตรงนี้เป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมภายในองค์กรเป็นอย่างดี
2. ที่นี่มีแต่คนเก่งๆ
ทุกๆ ปีเราจะเห็นสิ่งแปลกใหม่จากเฟซบุ๊กอยู่เสมอๆ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากการที่บริษัทให้พนักงานสร้างสิ่งที่สุดยอดขึ้นภายในองค์กรอย่างอิสระ และด้วยการที่บริษัทแห่งนี้รายล้อมไปด้วยคนเก่งๆ ทำให้คนที่ทำงานที่เฟซบุ๊ก สามารถที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัว พร้อมดูดซับความเก่งกาจได้จากคนที่ทำงานร่วมกันภายใต้ชายคาที่มีชื่อว่า เฟซบุ๊ก ได้ในทุกๆ วันที่ทำงาน
พร้อมกันนี้ เฟซบุ๊กยังเป็นองค์กรที่คำนึงถึงความหลากหลายเป็นสำคัญ ทำให้การทำงานภายในเฟซบุ๊กจะเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ทั้งจากเชื้อสายแอฟริกัน เอเชีย อเมริกัน ฮิสแปนิก เป็นต้น ซึ่งความหลากหลายตรงนี้ถือเป็นส่วนสำคัญของวัฒนธรรมองค์กร เพราะจะทำให้เฟซบุ๊กมีมุมมองที่หลากหลาย และสามารถเข้าใจคนแต่ละกลุ่มได้เป็นอย่างดี
3. เป็นองค์กรที่มีความโปร่งใส
ในทุกๆ สัปดาห์ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเฟซบุ๊ก รวมถึงผู้บริหารในทุกๆ ภาคส่วน จะเป็นเจ้าภาพเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถถามตอบ (Q&A) กับผู้บริหารได้อย่างตรงไปตรงมา รวมไปถึงยังเป็นการอัปเดตเรื่องราวอื่นๆ จากปากของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก โดยตรง
นอกเหนือจากนี้วัฒนธรรมองค์กรของเฟซบุ๊ก สนับสนุนให้พนักงานได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้นภายในองค์กรในระดับที่เท่าๆ กันกับพนักงานระดับสูงๆ เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของบริษัทที่ตรงกัน
4. เป็นบริษัทที่มีความก้าวหน้า
ด้วยความที่เฟซบุ๊กเป็นผู้นำด้านเครือข่ายสังคม ทำให้ขอบเขตการทำงานสามารถขยายได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งมีส่วนให้พนักงานได้รู้สึกว่า การทำงานในองค์กรแห่งนี้ไม่มีโอกาสตีบตัน ตรงกันข้ามกลับยังสามารถหาโอกาสในการเติบโตจากการทำงานที่เฟซบุ๊กได้ง่าย
นอกเหนือจากนี้การได้ชื่อว่าเป็นพนักงานเฟซบุ๊ก นับได้ว่ามีแรงดึงดูดที่มากพอจะให้บริษัทชั้นนำอื่นๆ อยากได้ตัวไปร่วมงานด้วยในอนาคต
5. สวัสดิการพนักงานที่เยี่ยมยอด
การเป็นพนักงานเฟซบุ๊ก (รวมถึงบริษัทอื่นๆ ในซิลิคอน วัลเลย์) จะได้สวัสดิการที่ทำให้พนักงานบริษัทอื่นๆ ต้องอิจฉาตาร้อน เพราะการได้ชื่อว่าเป็นพนักงานของเฟซบุ๊ก จะทำให้คุณได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ตั้งแต่ข้าวกลางวันฟรี ระบบประกันสุขภาพที่ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง มีบริการที่ซักผ้า อบผ้า อุปกรณ์ด้านเทคนิคที่จะช่วยส่งเสริมการทำงาน นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำหรับออกกำลังกายให้แก่พนักงานได้ใช้สอยอีกด้วย
สาเหตุที่เฟซบุ๊กมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย คาดว่ามาจากสองปัจจัยหลักๆ นั่นคือ 1. เพื่อให้พนักงานทุ่มเวลาการทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพื่อใช้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เรียกว่า ขนทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าคนหนึ่งคนจะต้องการมาไว้ในออฟฟิศไปเลย 2. การทำงานที่เฟซบุ๊กมีแนวโน้มที่จะต้องคิดเยอะ มีเรื่องเครียด การให้พนักงานได้พบสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแบบนี้ ก็น่าจะบรรเทาความเครียดจากการทำงานได้เป็นอย่างดี
พร้อมกันนี้ยังมีสวัสดิการสำหรับคุณแม่ลูกอ่อน ที่จะได้รับเงิน 4,000 ดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงให้พนักงานลาพักร้อนได้นานถึง 4 เดือน โดยที่ยังได้รับเงินเดือนครบทุกดอลลาร์
6. ค่าแรงแพง
แน่นอนว่า ข้อนี้น่าจะเป็นที่เข้าใจได้ของทุกๆ คนเป็นอย่างดี เนื่องจากเฟซบุ๊กเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีคนใช้งานมากที่สุด เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ผู้คนในโลกใบนี้เริ่มมีโอกาสได้ใช้งานสมาร์ทโฟน รวมถึงการขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต และเพื่อมัดใจให้พนักงานเก่งๆ ยังคงอยู่ที่เฟซบุ๊ก การจ่ายค่าแรงงามๆ ก็เป็นหนึ่งในวิธีการทำให้พนักงานเก่งๆ เหล่านั้นยังคงอยู่ที่นี่