เวลาเป็นเงินเป็นทอง
คุณเคยลองตั้งคำถามกับตัวเองดูมั้ยคะว่าระหว่าง ‘เสียดายเงิน’ กับ ‘เสียดายเวลา’ คุณเสียดายอะไรมากกว่ากัน
เชื่อว่าโดยส่วนใหญ่ก็คงจะตอบว่า ‘เสียดายเวลา’ เพราะอะไรเหรอคะ ก็เพราะว่าเวลามีค่ามากกว่าเงิน เวลาเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด และเวลาก็เปรียบเหมือนสายน้ำ ที่ไหลไปแล้ว ไม่มีวันหวนคืนกลับมา – เมื่อเวลาผ่านเลยไปแล้ว คุณไม่มีทางที่จะเรียกเวลากลับคืนมาได้ค่ะ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ นิมีโอกาสได้ฟังสัมภาษณ์ของคุณวรรณา บัวแก้ว อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย หลังจบการแข่งคัดเลือกเพื่อไปโอลิมปิก 2016 ที่จัดขึ้นที่เมืองริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งผลการแข่งขันที่ออกมานั้น ทีมสาวไทยพลาดหวังที่จะไปแข่งโอลิมปิก 2016 ค่ะ คุณวรรณา จึงประกาศอำลาจากทีมชาติไทย โดยที่ตอนที่เธอประกาศอำลาทีมชาติไทยนั้น เธอมีอายุ 35 ปี
ผู้สื่อข่าวที่สัมภาษณ์เธอ ได้ถามเธอว่า จะพอมีอะไรบ้างที่ทำให้เธอเปลี่ยนใจ ไม่อำลาทีมชาติไทย และยังคงเล่นวอลเลย์บอลต่อไป เธอตอบว่าถ้าเธอมีอายุที่ลดลงกว่านี้ (ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้) สุดท้ายเราก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของชีวิต และธรรมชาติของเวลาว่า ไม่มีใครหยุดเวลาไว้ได้ เราห้ามเวลาไม่ได้ เราหยุดเวลาไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้ ก็คือ การบริหารเวลา และลงทุนในเวลาให้คุ้มค่าที่สุดค่ะ
และนั่นก็น่าที่จะเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า ‘เวลาเป็นเงินเป็นทอง’
คนโดยส่วนใหญ่คิดว่า ‘เงินทองเป็นของมีค่า’ เป็นการที่นำเวลามาเปรียบกับเงินทอง เพื่อบอกให้คนทราบว่า เวลาเป็นของมีค่าเหมือนเงินทอง ทำให้คนรู้จักคุณค่าของเวลาและพยายามใช้เวลาให้คุ้มค่าหรือให้เป็นประโยชน์แก่ตน ให้เหมือนกับการรู้จักใช้เงินทองนั่นเอง
ดังที่กล่าวไปแล้ว เวลาเป็นของมีค่ามากกว่าเงินทอง เพราะเงินทองเป็นของที่มีค่าที่จำกัด เช่น เงิน 100 บาทจะให้ใครใช้ ก็มีราคาค่างวดเพียง 100 บาท แต่เวลาที่เท่ากันนั้น คุณจะพบว่ามีคนใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ผิดกันมากทีเดียว เช่น คนบางคนอาจจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ทำเงินแสน เงินล้านให้เกิดขึ้นได้ ในขณะเดียวกัน บางคนทั้งชีวิตก็ไม่อาจจะมีเงินถึงหมื่นบาท อันเป็นการแสดงให้เห็นว่า เรื่องของเวลานั้น ถ้าคนมีปัญญา มีความขยันหมั่นเพียร มีสติ มีความรู้ มีความชำนาญนำไปใช้ ไปบริหารอย่างถูกต้อง ก็จะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาลอันประมาณค่ามิได้จริงๆ
เราจึงต้องรู้จักค่าของเวลา และพยายามใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ให้มากที่สุด เพราะเงินทองหายไปหาใหม่แทนได้ แต่เวลาที่สูญเสียไป จะไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้เลยตลอดชีวิต
ในการที่จะบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ให้ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ทำอย่างไรเมื่อเวลาเท่ากับเงิน’ ซึ่งนั่นก็แปลว่า ‘ถ้าเราบริหารเวลาได้ดีขึ้น ก็แปลว่าเราบริหารเงินได้ดีขึ้น’ เพราะเมื่อเราบริหารเวลาได้ดีขึ้น ทำให้เราจะมีเวลาเหลือมากขึ้นที่จะไปทำงานอดิเรกอื่นๆ ที่อาจจะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้คุณก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังอาจทำให้คุณได้มีเวลาออกกำลังกาย ได้ดูแลตัวเอง พร้อมทั้งได้ดูแลครอบครัวไปด้วย ดีมั้ยคะ?
ดังนั้นเรามาลงทุนกับเวลาให้คุ้มค่ากันเถอะค่ะ