มูลค่าหุ้น AOT ทะยานถึง 1 ล้านล้านบาท นี่คือสนามบิน หรือ ฐานยิงจรวด?
เราทราบกันดีว่า หุ้นที่มี Market Cap (มูลค่าหุ้นทั้งกิจการตามราคาตลาด) ใหญ่อันดับ 1 ของประเทศไทย ตอนนี้ยังเป็น PTT แต่หุ้น Market Cap ใหญ่อันดับ 2 ตอนนี้ไม่ใช่หน้าเดิม ๆ อีกต่อไปแล้ว
ไม่ใช่ ADVANC ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออันดับ 1 (AIS) ที่มีลูกค้า 40 ล้าน
ไม่ใช่ CPALL ร้านค้าปลีกอันดับ 1 (7-Eleven) มีสาขาเป็นหมื่นแห่ง
ไม่ใช่ SCC ปูนใหญ่ ที่เป็นพี่ใหญ่ตลาดหุ้นไทยมานาน
แต่มันคือ AOT
ทั้งนี้เพราะหุ้นสนามบินมีกำไรสูง อีกทั้งยังมีการเติบโตทั้งจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสาร 6 แห่งของประเทศไทย รวมตัวกันอยู่ที่นี่คือ 1. สนามบินสุวรรณภูมิ 2. สนามบินดอนเมือง 3. สนามบินเชียงใหม่ 4. สนามบินเชียงราย 5. สนามบินภูเก็ต และ 6. สนามบินหาดใหญ่
ในแง่รายได้นั้นมีหลายทาง ดังนี้
(A) รายได้จากกิจการการบิน (Aeronautical Revenue) ซึ่งประกอบด้วย
-> ค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงของอากาศยาน (Landing Charge)
-> ค่าธรรมเนียมที่เก็บอากาศยาน (Parking Charge)
-> ค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charge) และ
-> ค่าเครื่องอำนวยความสะดวก (Aircraft Service Charge)
(B) รายได้ที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non Aeronautical Revenue) ซึ่งประกอบด้วย
-> รายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ (Concession Revenue)
-> ค่าเช่าสนง.และอสังหาริมทรัพย์ (Office and Real Property Rents)
-> รายได้จากการให้บริการ (Service Revenue)
ถ้าดูหุ้น AOT เมื่อครั้งที่จดทะเบียนกับตลท. ปี 2547 ราคา IPO อยู่ที่ 42.00 บาท แต่ตอนนี้หุ้น AOT เป็นหุ้น 10 เด้งไปแล้ว หลังจากราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง มีการแตกพาร์ในช่วงราคาหุ้น 380-400 บาท กลายเป็นหุ้นละ 38-40 บาทอยู่ช่วงหนึ่ง
เผลอเดี๋ยวเดียว นี่มาที่ 70 กว่าบาทแล้ว ซึ่งด้วยราคานี้เองจึงทำให้มูลค่าตลาด Market Cap ของ AOT อยู่ที่ 1 ล้านล้านบาท ถือได้ว่าเป็นผู้ให้บริการสนามบินที่มีมูลค่าสูงสุดของโลก
เมื่อลองถามนักวิเคราะห์ต่างชาติที่มีการลงทุนในไทยว่าเพราะเหตุใดนักลงทุนสถาบันและต่างชาติถึงสนใจหุ้น AOT กันมาก ซึ่งคำตอบที่ได้คือ ตั้งแต่ช่วงปี 58 เป็นจังหวะที่หุ้นไทยตัวใหญ่ ๆ เกิดภัยขึ้นพร้อมกัน
-> PTT Family ราคาน้ำมันปรับตัวลงรุนแรง นักลงทุนไม่อยากเข้าซื้อ
-> ADVANC INTUCH DTAC กลุ่มสื่อสารโดนประมูลเข้าไป 2 ดอก ปั่นป่วนทั่วหน้า
-> BBL KBANK SCB KTB ก็กลัวพิษเศรษฐกิจ
กลายเป็นว่า AOT คือหุ้นใหญ่ Top 5 หนึ่งเดียวที่หล่อที่สุด ไร้แผล ไร้ตำหนิ และที่สำคัญธุรกิจสายการบินรวมถึงโลจิสติกส์ทางการบินยังมีการเติบโตที่ดีในอนาคต ไม่นับรวมถึงผู้โดยสารที่มีการโดยสารเครื่องบินเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
อย่างไรก็ดี เวลานี้หุ้น AOT ปริมาณซื้อขายค่อนข้างแน่น ด้วยฟรีโฟลตเพียง 29% ราคาเวลานี้อยู่ที่ 70.50 บาท มีค่า P/E ที่ 48.69 เท่า ไม่ว่ายังไงราคานี้ AOT แพงแน่ ๆ แต่ใครจะลงทุนหรือไม่ลงทุนในหุ้นตัวนี้ ก็อยู่ที่มุมมองของนักลงทุนแต่ละคน ถ้าหากมองว่าราคาแพงเกินไป ก็อาจเลือกออมหุ้นด้วยวิธี DCA ไปเรื่อย ๆ แทนก็ได้