'Mark Zuckerberg' แจงเหตุผลทำไมต้องรื้อโครงสร้าง News Feed
ทันทีที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) สื่อสังคมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศปรับการแสดงผลหน้า News Feed เสียใหม่ โดยลดการแสดงผลในส่วนเพจธุรกิจและสื่อ แล้วหันมาให้ความสำคัญกับการแสดงผลของเพื่อนผู้ใช้งานเฟซบุ๊กแทน โดยประเด็นนี้ส่งผลต่อธุรกิจของเฟซบุ๊กและมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก แทบจะทันทีทันใด
ภายหลังการประกาศปรับหน้า News Feed เป็นรูปแบบใหม่ ดูเหมือนว่า นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ จะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไรนัก โดยหุ้นของเฟซบุ๊กร่วงลงไป 4.74% ปิดที่ 179.37 ดอลลาร์ต่อหุ้น
เท่านั้นไม่พอ การที่หุ้นของเฟซบุ๊กตกลงไปเกือบ 5% นั้น ยังส่งผลให้สินทรัพย์รวมของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก หายวับไปกับตาราว 3.3 ล้านดอลลาร์ (ราว 105 ล้านบาท) แต่ถึงแม้หุ้นจะตก สินทรัพย์จะหาย กระนั้นแล้วพี่มาร์คก็ยังคงเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในอันดับที่ 5 จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ด้วยสินทรัพย์ 56,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท) อยู่ดี
แน่นอนว่า เจ้าของธุรกิจเพจบนเฟซบุ๊ก ผู้ประกอบการธุรกิจสื่อ ผู้ใช้งานทั่วไป จนถึงนักลงทุน อาจเกิดความใคร่สงสัยว่า เพราะเหตุใดมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตัดสินใจทุบหม้อข้าวของตัวเอง เพราะที่ผ่านมาการแสดงผล News Feed ในส่วนที่เป็นเพจธุรกิจและเพจสื่อสารมวลชน ถือเป็นขุมทรัพย์สำคัญของเฟซบุ๊กมาตลอด
แต่ในท้ายที่สุดความก็กระจ่าง สาเหตุที่มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ตัดสินใจเช่นนั้น เป็นเพราะเขาได้คิดคำนึงถึงลูกสาวทั้งสองคน (Max และ August) ที่เติบใหญ่ในวันข้างหน้า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก จึงตัดสินใจทบทวนแนวทางของเฟซบุ๊กเสียใหม่ เพื่อให้ลูกสาวทั้งสองคนจดจำพ่อของพวกเธอว่า ได้สร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามให้แก่โลกอย่างไร ด้วยเหตุผลดังกล่าว เฟซบุ๊กจึงกลายเป็น News Feed ที่ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว และความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน มากกว่าที่จะเป็นการแสดงผลในเชิงธุรกิจเหมือนที่ผ่านมา
พร้อมกันนี้ ซีอีโอเฟซบุ๊ก ยอมรับด้วยว่า การตัดสินใจเปลี่ยนการแสดงผล เป็นสิ่งที่เฟซบุ๊กจะต้องพบกับปัญหาบางประการอย่างเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ดีในมุมมองของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยังเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นผลกระทบระยะสั้น ๆ แต่ในระยะยาวการนำเสนอ News Feed ที่เน้นเชื่อมโยงกับความเป็นเพื่อนและครอบครัวจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดกับเฟซบุ๊ก
อ่านเพิ่มเติม วิธีรับมือเมื่อเฟสบุ๊กปรับ News Feed แบบใหม่