'แอปเปิล' พร้อมทุ่มจ่ายภาษี 1.2 ล้านล้านบาท เตรียมหอบกำไรกลับบ้านเกิด

'แอปเปิล อิงค์' ยักษ์ใหญ่ด้านไอที ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แถลงว่าเตรียมจ่ายภาษีจำนวน 38,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท จากเงินสดสะสมกว่า 250,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 8 ล้านล้านบาท) ซึ่งเป็นผลกำไรที่บริษัทเก็บไว้ในต่างประเทศ

โดยการจ่ายภาษีดังกล่าวถือเป็นภาษีก้อนใหญ่ที่สุด เป็นสถิติของแอปเปิล ซึ่งเป็นไปตามระบบโครงสร้างภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ที่ปรับลดภาษีนิติบุคคลจาก 35% เหลือ 21% และกำหนดให้บริษัทข้ามชาติของอเมริกาต้องจ่ายภาษีจากเงินกำไรที่เก็บไว้ในต่างประเทศด้วย

ขณะที่ก่อนหน้านี้บริษัทอื่น ๆ รวมถึง แอปเปิล ใช้วิธีจัดตั้งบริษัทลูกในประเทศอื่นที่มีอัตราภาษีต่ำ เช่น ไอร์แลนด์ เพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายภาษีจากกำไรที่เกิดขึ้นในต่างประเทศให้กับรัฐบาลสหรัฐ นอกจากการจ่ายภาษีก้อนโตแล้ว แอปเปิล ยังประกาศจะจ้างงานเพิ่มอีก 20,000 ตำแหน่ง และลงทุนเพิ่มในเมืองลุงแซมอีก 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 1 ล้านล้านบาท ตลอด 5 ปีข้างหน้า ซึ่งแอปเปิลเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้สหรัฐอีก 350,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 12 ล้านล้านบาท

ส่วนกรณีที่แอปเปิลทำการปรับไอโฟนรุ่นเก่า ๆ ให้ทำงานช้าลงนั้น ล่าสุด ทิม คุก ประธานบริหารของแอปเปิลได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทเตรียมเสนอทางเลือกใหม่ให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้เองว่า จะยอมทำให้ระบบประมวลผลช้าลง เพื่อยืดอายุการทำงานของแบตเตอรี่หรือไม่ ผ่านการอัปเกรดระบบปฏิบัติการไอโอเอส 11 ในปลายเดือนหน้า พร้อมกล่าวขอโทษผู้ใช้ทุกคนที่บริษัททำให้เข้าใจผิดว่า เป็นแผนที่หวังกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อไอโฟนรุ่นใหม่