นายกส.ค้าส่งฯจี้รบ.เช็กห้างหาสาเหตุของแพง

นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง - ปลีกไทย เปิดเผยถึงแนวทางแก้ปัญหาราคาสินค้าแพง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนว่า ในส่วนของผู้ผลิต พยายามจะไม่ปรับราคาสินค้าให้เพิ่มสูงขึ้นตามการปรับค่าแรง 300 บาทต่อวัน เป็นห่วงว่าผู้ใช้แรงงานมีรายได้ไม่คุ้มกับราคาสินค้าที่แพงขึ้นและยังต้องเจอกับภาวะค่าใช้จ่ายด้านอื่นที่สูงขึ้น ส่วนภาครัฐบาลนั้น ในเบื้องต้นมีความเข้าใจในเรื่องของกลไกการตลาด ต้องไม่บิดเบือนกลไกตลาด เพราะที่ผ่านมาแก้ปัญหาสินค้าแพงยังวนเวียนอยู่ที่เดิม ตัวอย่างปัญหาหัวหอมแดงราคาถูก และล้นตลาด ทางรัฐบาลก็ไปซื้อมาเก็บโดยไม่ได้ใส่ใจแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หรือ เรื่องของน้ำมันปาล์ม ที่ผ่านม าควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกราคาตลาด แต่กดราคาไว้ ส่งผลให้สินค้าขาดตลาด และช่วงนี้กำลังจะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลใหม่ รัฐบาลต้องทำหน้าที่ในการปรับสมดุลในโครงสร้างราคาจากนั้นมาดูเรื่องการเอาเปรียบผู้บริโภค เช่น กลุ่มที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมต่างๆ ทำให้ผู้ผลิตต้องเพิ่มราคาสินค้าแฝงไปกับต้นทุนสินค้า สิ่งเหล่านี้รัฐบาลต้องไปตรวจสอบว่าเป็นไปได้หรือไม่ ที่กลุ่มรายใหญ่คือผู้มีอิทธิพลในการกำหนดราคาสินค้า เพราะวันนี้ไม่ใช่ผู้ผลิตไปกำหนดเอง เช่น ฟู้ดคอร์ท มีผู้ประกอบการเข้าไปจำหน่ายสินค้าในห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ มีค่าใช้จ่ายส่วนกลางร้อยละ 30 - 40  ถ้าภาครัฐมีทางเลือกจัดหาพื้นที่โดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่าย ราคาก็จะถูกลงได้นายสมชาย กล่าวด้วยว่า ร้านค้าโชห่วยช่วยชาติชื่อ ถูกใจ ที่รัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือลดภาระค่าครองชีพประชาชน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ตรงจุด ดูเหมือนนำงบประมาณไปซื้อของแพงมาขายราคาถูก ซึ่งไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุถ้าต้องการให้ร้านค้าโชห่วยมีสินค้าราคาถูกขาย จะต้องหารายใหญ่แต่ละจังหวัดรวมตัวกัน สั่งซื้อ และขอความร่วมมือกับผู้ผลิต เพียงแต่รัฐบาลช่วยในเรื่องของอำนาจการต่อรอง จัดโฆษณา สนับสนุน เพราะที่ผ่านมาไม่สามารถทำการตลาดได้ ก็จะช่วยให้ประชาชนซื้อสินค้าถูกลงได้และผู้ประกอบการก็อยู่ได้ด้วย