พุทรา 'ทันสุข' สร้างแบรนด์ชุมชน ขจัดพ่อค้าคนกลาง
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ปณท ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ อาทิ พาณิชย์จังหวัดกาฬสินธุ์ สภาเกษตรจังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานเกษตรอำเภอคำม่วง และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอคำม่วง ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่ม พัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ในแบรนด์ “ทันสุข” รวมทั้งสนับสนุนช่องทางการตลาด โดยคัดพุทราเกรดคุณภาพเข้าสู่ระบบบริการ “อร่อยทั่วไทย สั่งได้ที่ไปรษณีย์” และจัดจำหน่าย ณ ที่ทำการไปรษณีย์ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์
ทั้งนี้ แบรนด์ “ทันสุข” มาจากคำว่า “ทัน” ซึ่งพ้องมาจากคำว่า “หมากทัน” ในภาษาอีสาน ที่แปลว่า ผลพุทรา และ “สุข” พ้องกับการดำเนินงาน “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ช่วยเหลือชุมชนของไปรษณีย์ไทย เพื่อให้เป็นพุทราเกรดดีมีคุณภาพ ที่จากกลุ่มเกษตรกรที่ปลูกด้วยกรรมวิธีกางมุ้งและได้รับมาตรฐานอาหารปลอดภัย (GAP) พร้อมบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ส่งถึงมือผู้บริโภคโดยตรง ช่วยให้เกษตรกรในชุมชนมีรายได้ที่ดีขึ้น
โดย “พุทราหวานบ้านโพน” ถือเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นของจังหวัดกาฬสินธุ์ มีรสชาติหวาน กรอบ อร่อย และมีกลิ่นนมเมื่อรับประทาน
ขณะที่ ปณท ได้ร่วมลงพื้นที่ตั้งแต่การให้ความรู้กลุ่มเกษตรกรผู้ผลิต การออกแบบบรรจุภัณฑ์ การควบคุมมาตรฐานผลผลิต การคัดเลือกผลผลิตคุณภาพเพื่อส่งขายในราคาที่สูงกว่า การใช้เครื่องวัดน้ำตาลในผลพุทรา การคำนวณราคาขาย
นอกจากนี้ ยังได้ช่วยเหลือในการผลิตบรรจุภัณฑ์แก่เกษตรกรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย จนเกษตรกรสามารถส่งขายผลผลิตพุทราหวาน “ทันสุข” ให้คนไทยทั่วประเทศได้ลิ้มลองในช่วงเดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์ของทุกปี ซึ่งผู้สนใจสามารถสั่งซื้อ พุทราหวานบ้านโพน แบรนด์ “ทันสุข” จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ในราคากล่องละ 205 บาท (บรรจุกล่อง 3 กิโลกรัม) ผ่าน 3 ช่องทางหลักของไปรษณีย์ไทย คือ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ, ศูนย์บริการลูกค้าไปรษณีย์ THP Contact Center 1545 และเว็บไซต์ไทยแลนด์โพสต์มาร์ท www.thailandpostmart.com ตั้งแต่วันนี้จนถึง 19 กุมภาพันธ์ 2561
ด้าน นายเสริมศักดิ์ ราชติกา เลขานุการกลุ่มพุทรา “ทันสุข” บ้านโพน จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า การสร้างแบรนด์ “ทันสุข” ร่วมกับ ปณท นั้น ทำให้ชาวบ้านและเกษตรกรสามารถจำหน่าย “พุทรานมสด” ซึ่งเป็นผลผลิตที่สำคัญของพื้นที่บ้านโพน ได้ในราคาที่ดีขึ้น จากในอดีตที่มีพ่อค้าคนกลางมารับซื้อถึงสวนในราคากิโลกรัมละ 20 บาท เมื่อเกษตรกรเข้าร่วมโครงการนี้แล้ว สามารถจำหน่ายพุทราได้กิโลกรัมละ 40 บาท ซึ่งเป็นราคาหลักที่ ปณท รับรอง
สำหรับโครงการดังกล่าวเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อต้นปี 2560 โดยระยะแรกเป็นการศึกษาดูงานในพื้นที่อื่น ๆ ก่อนรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นกลุ่ม “ทันสุข” เริ่มดูแลต้นพุทราตั้งแต่การตกแต่งกิ่ง จนถึงระยะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ โดยมีสมาชิกเข้าร่วม 15 รายในขณะนี้ มีจำนวนพื้นที่ปลูกทั้งหมด 60 ไร่ ให้ผลผลิตได้ประมาณ 4 ตันต่อไร่
ดังนั้น สามารถดำเนินการส่งผลผลิตตรงสู่ผู้บริโภคได้ประมาณ 3 ตันต่อวัน ที่ผ่านมาได้เริ่มส่งผลผลิตแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม โดยมีจำนวนการสั่งซื้อประมาณวันละ 50 กิโลกรัม ซึ่งทางกลุ่มจะทำการคัดเลือกพุทราที่มีคุณภาพดี มีขนาดผลใหญ่ มีปริมาณความหวานอยู่ในระดับตั้งแต่ 12 บริกซ์ขึ้นไป
“การดำเนินการตามโครงการนี้ของไปรษณีย์ไทย สามารถช่วยคงราคาพุทราของเกษตรกรไว้ได้ที่ราคากิโลกรัมละ 40 บาท จากในอดีตที่มีราคาขึ้นลงอยู่ระหว่าง 20-40 บาทต่อกิโลกรัม และทำให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าตรงจากสวนในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ซึ่งจะมีราคาจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 50-60 บาท ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่แน่นอน ผู้บริโภคได้บริโภคสินค้าที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ถือเป็นการช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนได้อีกทางหนึ่ง” นายเสริมศักดิ์กล่าว