'ผักหวานป่า' พืชผักสวนครัว หากินง่าย สร้างรายได้ดี

'ผักหวานป่า' พืชผักสวนครัว หากินง่าย สร้างรายได้ดี

'ผักหวานป่า' พืชผักสวนครัว หากินง่าย สร้างรายได้ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผักหวานป่า สามารถปลูกเองได้ โดยไม่ต้องรอฤดูกาล โดยธรรมชาติดั้งเดิมของผักหวานป่าเป็นพืชที่ไม่ชอบแสงแดด

ในการปลูกครั้งแรกต้องลงต้นกล้าให้อยู่ภายใต้ร่มเงาของไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ มีแสงแดดผ่านประมาณ 30% เมื่อกล้าเริ่มโตให้นำต้นพันธุ์ผักหวานลงปลูก โดยระยะห่างระหว่างต้นและแถวห่างกัน 1 เมตร ส่วนหลุมจะต้องมีความกว้าง 30 เซนติเมตร ความลึก 25 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยหิน ให้น้ำอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง จะให้น้ำเป็นระบบสปริงเกอร์ หรือ ระบบน้ำหยดก็ได้

สำหรับการดูแลต้นผักหวานนั้น ต้องบำรุงต้นด้วยปุ๋ยมูลสัตว์ ห้ามใช้ปุ๋ยเคมีเด็ดขาด! เพราะเป็นพืชที่ค่อนข้างอ่อนไหวกับสารเคมี โรยปุ๋ยไว้รอบ ๆ โคนต้น และไม่ต้องพรวนดินใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะรากของต้นผักหวานป่าจะค่อนข้างตื้นใกล้กับผิวดิน หากพรวนดินแรงหรือใช้ปุ๋ยเคมี รากอาจกระทบกระเทือนจนตายได้ เมื่อระยะเวลาผ่านไป 2-3 ปี ผักหวานจะเริ่มออกยอดสามารถเก็บยอดผักหวานขายได้ 

เทคนิคการเก็บยอดผักหวาน ให้รูดใบที่แก่ออกจากต้นทิ้งไว้ 22-25 วัน ต้นผักหวานจะแตกกิ่งและยอดใบอ่อนออกมาใหม่ ให้เก็บยอดด้วยการหักกิ่งอ่อนออก กิ่งอ่อนจะมีใบอ่อนผักหวานอยู่ด้วย การหักกิ่งอ่อนให้เลือกกิ่งที่มีความยาวประมาณ 7-8 นิ้ว เด็ดกิ่งอ่อนออกจากกิ่งย่อยของลำต้นได้ แล้วทิ้งไว้อีก 3-4 วัน ผักหวานจะแตกกิ่งแตกใบให้เก็บได้อีกครั้ง แต่ถ้าจะเลี้ยงให้กิ่งแข็งแรงต้องปล่อยให้กิ่งเติบโตจนแข็งแรงแล้วค่อยริดใบออก ปล่อยทิ้งไว้ 22-25 วัน กิ่งใหม่ก็จะแตกพร้อมใบอ่อนเก็บขายได้ต่อไป

ด้านผลผลิตของผักหวานป่า จะให้ผลผลิตต้นละ 10 กิโลกรัม/ปี เฉลี่ยกิโลกรัมละ 70-80 บาท แต่หากเป็นช่วงฤดูหนาว ผักหวานจะราคาแพง กิโลกรัมละ 150 บาท แนะนำสำหรับเกษตรกรมือใหม่ ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกต้นผักหวานได้ราว 300 ต้น ถ้าเกษตรกรมีพื้นที่ 3-4 ไร่ จะสามารถปลูกได้ประมาณ 1,000 ต้น

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook