'ทรัมป์' ประกาศแผนอภิมหาโปรเจกต์โครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 47.4 ล้านล้านบาท
โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยแผนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ (47.4 ล้านล้านบาท) ที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างถนน ทางรถไฟ และงานสาธารณะอื่น ๆ ที่เก่าแก่ขึ้นใหม่
เอกสารดังกล่าวมีถึง 53 หน้า ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการระดมทุน การลดระยะเวลาโครงการให้สั้นลง การขจัดอุปสรรคด้านกฎระเบียบ การช่วยเหลือพื้นที่ชนบท และการพัฒนาการฝึกอบรมของพนักงาน
"โครงสร้างพื้นฐานของประเทศเรากำลังอยู่ในสภาพทรุดโทรม จนไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อศักยภาพในการแข่งขันของเรา และคุณภาพชีวิตของประชาชนของเรา" ข้อความในจดหมายของนายทรัมป์ถึงสภาคองเกรสเขียนไว้เช่นนี้
ในปี 2559 เมื่อทรัมป์ลงสมัครเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาได้ให้สัญญาว่าจะดำเนินการแผนปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายใน 100 วันแรก หลังจากเขาเข้ารับตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แผนดังกล่าวได้ถูกเลื่อนออกไป อันเนื่องมาจากปัญหาด้านการให้บริการสุขภาพและร่างกฎหมายปฏิรูประบบภาษี
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้พบปะกับผู้ว่าการรัฐ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจำนวนมากที่ทำเนียบขาว เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุน อันเนื่องมาจากรัฐบาลกลางสหรัฐมีโครงสร้างพื้นฐานที่อยู่ในครอบครองเพียงน้อยนิด โครงการริเริ่มของทรัมป์จึงต้องอาศัยความเห็นชอบจากบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น
"นี่จะเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน" ทรัมป์ทวีตข้อความนี้ในเช้าวันจันทร์ "หลังจากที่ใช้จ่ายเงินอย่างโง่เขลาถึง 7 ล้านล้านดอลลาร์ไปกับตะวันออกกลาง ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะเริ่มลงทุนในประเทศของเรา!"
เอกสารฉบับนี้ยังระบุอีกว่า ใจความสำคัญของแผนงานนี้คือการระดมทุน ซึ่งรัฐบาลกลางจะจัดหาเงินให้ 200,000 ล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนอีกกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์จากรัฐต่าง ๆ และบรรดานักลงทุนนอกตลาด
อย่างไรก็ตาม บรรดานักวิเคราะห์ได้ตั้งข้อสงสัยถึงความเป็นไปได้ของแผนงานนี้ เพราะเงินทุก 1 ดอลลาร์ที่รัฐบาลกลางยื่นให้โครงการ ทุกพรรคต้องยื่นสมทบให้อีก 6.5 ดอลลาร์
นอกจากนี้ ทำเนียบขาวยังรายงานว่าจะดำเนินการระดมเงินทุน ด้วยการตัดงบประมาณจากด้านอื่น ๆ รวมทั้งเงินจากกองทุนด้านการขนส่งและยานพาหนะที่ขาดประสิทธิภาพอีกด้วย