มีทรัพย์สินใกล้รถไฟฟ้า สนามบิน ทางด่วน เตรียมเสียภาษีลาภลอย
นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เพื่อขยายฐานภาษีให้กว้างขึ้น เตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาจัดเก็บภาษีลาภลอย (Windfall Gain Tax) บริเวณโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เพื่อเสนอ ครม.พิจารณาในขั้นต่อไป เนื่องจากเห็นว่าหลายประเทศ เช่น ยุโรป สหรัฐ ฮ่องกง จัดเก็บภาษีดังกล่าวแล้ว ยืนยันว่าจัดเก็บเฉพาะทรัพย์สินบริเวณโครงการที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดยไม่มีผลย้อนหลังไปยังโครงการลงทุนที่ผ่านมา
โดย ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ พ.ศ. หรือ ภาษีลาภลอย (Windfall Gain Tax) ใช้แนวคิดจัดเก็บภาษีจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ดินและห้องชุดมีราคาเพิ่มขึ้นจากโครงการสาธารณูปโภคของรัฐ หลังจากเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินหรือห้องชุดขายและมีรายได้จากส่วนต่างมูลค่าที่ดินหรือทรัพย์สิน
สาระสำคัญของภาษีลาภลอย เน้นการขายทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาท ของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ห้องชุดรอจำหน่าย เน้นเฉพาะอสังหาริมทรัพย์บริเวณสถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูง รถไฟทางคู่ ในรัศมี 2.5 กิโลเมตรโดยรอบสถานี หากเป็นท่าเรือ พื้นที่จัดเก็บรัศมี 5 กิโลเมตร ส่วนทางด่วนพิเศษ รัศมี 2.5 กิโลเมตร รอบทางขึ้นและทางลง-ทางออก ไม่ได้จัดเก็บจากอสังหาริมทรัพย์ริมทางเพราะเป็นทางระบบปิด
รวมทั้งที่ดินใกล้สนามบิน รัศมี 5 กิโลเมตร จากแนวเขตห้ามก่อสร้างของสนามบิน โดยยกเว้นจัดเก็บภาษี กรณีที่ดินที่อยู่อาศัย และที่ดินทำเกษตรกรรม กำหนดเพดานอัตราภาษี ไม่เกิน 5% ของฐานภาษี โดยคำนวณส่วนต่างของมูลค่าที่ดินหรืออสังหาฯ ที่มีราคาเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ก่อนการก่อสร้างถึงวันซื้อขายเมื่อโครงการพัฒนาแล้วเสร็จ หากไม่มีการซื้อขายจะไม่มีการจัดเก็บภาษี รายละเอียดทั้งหมดต้องรอ ครม.พิจารณา
ขณะที่ นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาทบทวนโครงสร้างภาษีนำเข้ารถยนต์ จากเดิมได้เคยกำหนดอัตราภาษีนำเข้ารถยนต์แบ่งเป็น 2 อัตรา คือ 42% และ 65% ก่อนจะปรับมาเป็นอัตราเดียวอยู่ที่ 80% และได้ใช้อัตราเดียวมาโดยตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
การศึกษาทบทวนโครงสร้างภาษีศุลกากรนำเข้า เพื่อพิจารณาข้อดีข้อเสียในหลายด้าน ขณะที่ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระได้เสนอให้ปรับลดอัตราการจัดเก็บภาษีลง ส่วนสภาอุตสาหกรรมฯ รวมทั้งผู้ผลิตรถยนต์ต่างคัดค้านการลดภาษี จึงต้องนำความเห็นของทุกฝ่ายมาศึกษาอย่างรอบด้าน หากปรับลดลงจะสำแดงภาษีต่ำลงหรือไม่ ราคาขายปลีกเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปแต่อย่างใด
ส่วนกรณีรถหรู ลัมโบกินี ปอร์เช่ เฟอรารี่ มาเซอราติ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ เพื่ออายัดไว้ในคลังสินค้าทัณฑ์บน 900 คันนั้น ขณะนี้กรมศุลกากรได้ขอให้แจ้งใบขนส่งออกจากต่างประเทศ ใบค้ำประกันการส่งออก เพื่อนำมาพิจารณากับราคาตลาด พิสูจน์ดูว่าสำแดงราคาสินค้าต่ำกว่าความเป็นจริงหรือไม่ ขณะนี้ได้ทยอยปล่อยรถหรูให้กับผู้นำเข้า เมื่อได้พิจารณาเอกสารจากต่างประเทศแล้ว