'เวิร์คพอยท์' กำไรพุ่งทะลุฟ้า 355%

บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2560 ว่ามีกำไรสุทธิจำนวน 904.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 705.46 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 355% เมื่อเทียบกับปี 2559 ที่มีกำไรสุทธิ 198.63 ล้านบาท

เจ้าพ่อเกมโชว์แห่งเมืองไทยระบุว่า รายได้ในปี 60 เท่ากับ 3,852.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,185.45 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 44% โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังต่อไปนี้

รายการโทรทัศน์

ซึ่งหมายถึงรายได้จากการขายโฆษณาในช่วงเวลาต่าง ๆ ในช่อง Workpoint ช่องอื่น และช่องทางสื่ออนไลน์ต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงรายได้จากการให้เช่าช่วงเวลา รายได้จากการรับจ้างผลิตรายการ และรายได้จากการจำหน่ายลิขสิทธิ์รายการไปยังต่างประเทศ

โดยในปี 60 มีรายได้รวมจากรายการโทรทัศน์เท่ากับ 3,478.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44% เมื่อเทียบกับปี 59 ซึ่งรายได้หลักในส่วนนี้มาจากรายได้ในช่อง Workpoint ที่ทำได้ 3,208.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 979.72 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 44% เช่นกัน

รับจ้างจัดงาน

หมายถึงรายได้จากการจัดอีเวนต์ทั้งให้แก่บุคคลภายนอกและของบริษัทเอง โดยปี 60 มีรายได้จากการรับจ้างจัดงานรวม 138.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% หรือเพิ่มขึ้นมาจำนวน 21.65 ล้านบาท

การจัดคอนเสิร์ตและละครเวที

เป็นรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและละครเวทีของบริษัท รวมทั้งรายได้จากการให้เช่าพื้นที่โรงละครของบริษัท และรายได้จากสปอนเซอร์ ซึ่งในปีที่แล้วสร้างรายได้จากส่วนนี้ไป 184.33 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56%

น่าสนใจตรงที่เมื่อมีรายได้รวมเพิ่มขึ้น 44% แต่อีกด้านหนึ่งกลับสามารถควบคุมให้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในอัตราที่น้อยกว่า โดยต้นทุนผลิตรวมทั้งสิ้นเท่ากับ 1,741.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 236.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 16% ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 859.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเพียง 4%

ลองดูตัวเลขผลประกอบการของเวิร์คพอยท์ นับตั้งแต่มีทีวีดิจิทัลในปี 57 จะเห็นได้ว่าปี 60 ที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่มีกำไรก้าวกระโดดมาก เช่นเดียวกับราคาหุ้นที่ทะยานขึ้นมาเช่นเดียวกัน

Sanook! Money ขอนำตัวเลขความนิยมของผู้ชมหรือเรตติ้งของช่อง Workpoint มาฝากกัน

ปีที่แล้ว ช่อง Workpoint มีเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 1.001 หรือประมาณ 663,000 คน/นาที 

ขณะที่เรตติ้งเฉลี่ยเดือนมกราคม 61 ที่เพิ่งผ่านมา ช่องเวิร์คพอยท์อยู่ในอันดับที่ 4 ตามหลังสองผู้นำวงการทีวีอย่างช่อง 7 และช่อง 3 รวมทั้งตามหลังคู่แข่งที่ถือได้ว่ากำลังเบียดบี้ขับเคี่ยวกันสูสีอย่างช่องโมโน โดยมีตัวเลขเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเดือนอยู่ที่ 0.805 

ขอปิดท้ายด้วยตัวเลขเรตติ้งของหนึ่งในรายการที่ประสบความสำเร็จของเวิร์คพอยท์ในรอบปีที่ผ่านมา นั่นคือ รายการ The Mask Singer นั่นเอง

เห็นผลประกอบการของเวิรค์พอยท์ออกมาแบบนี้แล้ว พอจะอนุมานได้อย่างหนึ่งว่าในวงการทีวีดิจิทัล นอกจากจะแข่งขันสูงแล้ว การปรับตัวเพื่อนำเสนอคอนเทนต์รายการต่าง ๆ ในช่องยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อผลประกอบการเช่นเดียวกัน

อ่านเพิ่มเติม --> 'บุพเพสันนิวาส' จะพาช่อง 3 ย้อนยุคกลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง?