เลือกกองทุนรวมแบบไหนดี จ่าย/ไม่จ่ายเงินปันผล หรือขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ

เมื่อเอ่ยถึงการลงทุนในกองทุนรวม ไม่ได้มีแค่ว่าลงทุนในกองทุนประเภทไหนดี ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหุ้น ตราสารหนี้ หรือกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศกองใดแล้วจะดี เพราะคงมีบทความประเภทนี้ให้ศึกษากันพอสมควรแล้ว แต่จะขอเล่าถึงว่า หากผู้ลงทุนเลือกประเภทของกองทุนรวมที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของตนเองได้แล้ว ลำดับถัดไปที่เราต้องตัดสินใจเลือกก็คือ จะลงทุนในกองทุนรวมแบบไหนดีระหว่าง

1) กองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล

2) กองทุนที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล หรือ

3) กองทุนที่มีการขายคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ (Auto Redemption) ซึ่งบางท่านอาจจะเคยเห็นกองทุนชื่อเดียวกัน แต่มีการแบ่งชนิดหน่วยลงทุนออกเป็นหลาย Class ตามข้างต้นกันมาแล้ว ทีนี้ทั้ง 3 แบบมันมีข้อดี-ข้อเสียต่างกันยังไง จะขออธิบายอย่างง่าย ๆ ดังนี้ครับ

1. กองทุนชนิดที่ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ตามชื่อชัดเจนเลยนะครับ กองทุนชนิดนี้จะไม่มีการจ่ายเงินปันผล หากผู้ลงทุนต้องการนำเงินบางส่วนหรือทั้งหมดที่ลงทุนไว้ออกจากกองทุน ก็จะต้องทำรายการขายคืนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับบ้านเราจะมีกองทุนชนิดนี้จำนวนมากที่สุด เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีเงินเย็น ไม่มีความจำเป็นต้องใช้เงินหรืออีกนานกว่าจะต้องนำเงินส่วนนี้มาใช้ โดยทั่วไปแล้ว กองทุนชนิดนี้เวลาได้รับเงินปันผลจากหุ้นหรือได้รับดอกเบี้ยจากตราสารหนี้ ก็จะนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนเพิ่มหรือที่เรียกกันว่า Reinvest เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเงินลงทุนสูงสุด ตราบใดที่เงินลงทุนของเรายังอยู่ในกองทุนนั้น ดังนั้นสำหรับใครที่ต้องการได้รับเงินระหว่างทางที่ลงทุนขอให้พิจารณาในข้อถัดไปแทนครับ

 

2. กองทุนชนิดที่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล กองทุนชนิดนี้เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการมีกระแสเงินสดรับระหว่างลงทุนในกองทุนนั้น ๆ หรือง่าย ๆ ก็คือ สำหรับผู้ลงทุนที่ไม่มีเวลาจับจังหวะลงทุน จึงอาศัยช่วงเวลาที่แต่ละกองทุนมีการพิจารณาจ่ายปันผลเพื่อรับกำไรบางส่วนเข้ากระเป๋าบ้าง ทั้งนี้ นโยบายการจ่ายเงินปันผลนั้นอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กำหนด โดยผู้ลงทุนสามารถหาอ่านนโยบายในส่วนนี้ได้จากหนังสือชี้ชวน เช่น บางกองทุนอาจกำหนดว่าจะจ่ายปีละ 4 ครั้ง และทาง บลจ.เองอาจกำหนดช่วงเวลาที่จะจ่ายเป็นรายไตรมาสเพื่อความสะดวก เป็นต้น แต่หากช่วงไหนที่สภาวะตลาดไม่ดี ผลการดำเนินงานของกองทุนติดลบหรือมีกำไรน้อย บลจ.อาจพิจารณาที่จะจ่ายหรือไม่จ่ายเงินปันผลก็ได้  เมื่อมีการจ่ายปันผลแล้วจะทำให้มูลค่าหน่วยลงทุนหรือ NAV ลดลงแต่จำนวนหน่วยลงทุนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงหากไม่มีการลงทุนหรือขายออกเพิ่ม อย่างไรก็ดี อย่าลืมว่าเงินปันผลที่ได้รับจากกองทุนจะต้องมีการเสียภาษี โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะให้ บลจ. หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้เลยหรือว่าจะไม่ให้หักภาษีไว้ (กรณีที่ไม่ได้เลือกหักภาษี ผู้ลงทุนต้องอย่าลืมนำเงินปันผลที่ได้ไปรวมกับรายได้เพื่อนำไปคำนวณภาษีเงินได้ประจำปีด้วยนะครับ)  

 

3. กองทุนชนิดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ (Auto Redemption) กองทุนประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับการจ่ายเงินปันผลคือ ผู้ลงทุนจะได้รับกระแสเงินสดรับตามที่แต่ละกองทุนหรือแต่ละบลจ. กำหนดเช่นกัน แต่แตกต่างกันตรงที่การขายคืนอัตโนมัติไม่ถือเป็นการจ่ายเงินปันผลจึงไม่ต้องเสียภาษี โดยเงินที่มาจากการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติอาจมาจากผลตอบแทนที่กองทุนลงทุนหรือมาจากเงินต้นก็ได้ วิธีการจะทำเสมือนเป็นการขายคืนหน่วยลงทุน ซึ่ง บลจ.จะมีการประกาศกำหนดวันขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า เช่น ทุกวันที่ 15 ของทุกเดือน เป็นต้น เมื่อถึงวันที่กำหนด บลจ. จะทำรายการดังกล่าวให้ผู้ลงทุนในทุก ๆ เดือน ผู้ลงทุนเพียงแค่รอรับรายได้อย่างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องกรอกเอกสารใด ๆ ให้ยุ่งยาก แต่ก็มีข้อสังเกตว่า หากวันที่ทำรายการขายคืนในวันนั้น ตลาดเกิดมีแนวโน้มสดใส เราก็อาจพลาดโอกาสที่จะสะสมกำไรหรือลงทุนอย่างต่อเนื่องได้เพราะถูกทำรายการขายอัตโนมัติไปแล้ว นอกจากนี้  อย่างที่บอกว่าวิธีการนี้เป็นเหมือนการขายคืนหน่วยลงทุน ดังนั้น หน่วยลงทุนของผู้ลงทุนก็จะลดลงเรื่อย ๆ ต่อการขายคืนหนึ่งครั้งและจะลดลงจนหมดหากไม่มีการลงทุนเพิ่มเช่นกัน

 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หลังจากที่ได้ทราบอย่างคร่าว ๆ ไปแล้ว หวังว่าจะพอมีประโยชน์ให้ทุกท่านได้นำไปลองพิจารณาเพื่อวางแผนการลงทุนให้ตรงตามวัตถุประสงค์ของตนเองได้ดีขึ้นนะครับ สำหรับวันนี้คงต้องขอลาไปก่อน สวัสดีและพบกันใหม่ในโอกาสหน้าครับ