แรงงานนอกระบบเฮ! ประกันสังคมเพิ่มความคุ้มครอง
ประกันสังคม ขยายความคุ้มครองผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพิ่ม 2 กรณี มีทั้งเพิ่มสิทธิประโยชน์ ไม่เพิ่มเงินสมทบ และเพิ่มทางเลือกใหม่ โดยเพิ่มความคุ้มครอง และเพิ่มเงินสมทบ
นางอรุณี ศรีโต กรรมการประกันสังคม และเครือข่ายแรงงานนอกระบบ เปิดเผยถึง พระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน พ.ศ. 2561 ได้มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2561 โดยมีการปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขสิทธิประโยชน์ในการเกิดสิทธิ และเพิ่มความคุ้มครองเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแรงงานนอกระบบ แบ่งเป็น 2 แนวทาง ดังนี้
1. เพิ่มสิทธิประโยชน์ ไม่เพิ่มเงินสมทบ (ทางเลือก 1 และ 2) ซึ่งปัจจุบันผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบ 2 อัตรา โดยสามารถเลือกจ่ายในอัตราเดือนละ 70 บาท และอัตราเดือนละ 100 บาท จะได้รับสิทธิเพิ่ม เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย กรณีนอนพักรักษาตัวในสถานพยาบาลเป็นวันละ 300 บาท และกรณีไม่นอนพักรักษาตัวในสถานพยาบาลแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้วันละ 200 บาท (กรณีนอนพักรักษาตัวกับไม่นอนพักรักษาตัว จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้รวมกันไม่เกิน 30 วันต่อปี) และกรณีไปพบแพทย์ ไม่นอนพักรักษาตัว แต่แพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวไม่ถึง 3 วัน จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ ครั้งละ 50 บาท ปีละไม่เกิน 3 ครั้ง และได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตายเพิ่มอีก 3,000 บาท ถ้าหากส่งเงินครบ 60 เดือน
2. เพิ่มความคุ้มครองและเพิ่มเงินสมทบ (ทางเลือกใหม่) โดยผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบเดือนละ 300 บาท รับเงินทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยวันละ 300 บาท กรณีไม่นอนพักรักษาตัวในสถานพยาบาล แต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัว ตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ วันละ 200 บาท (กรณีนอนพักรักษาตัวกับไม่นอนพักรักษาตัว จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้รวมกันไม่เกิน 90 วันต่อปี) อีกทั้งเพิ่มเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพเป็นตลอดชีวิต เพิ่มค่าทำศพเป็น 40,000 บาท เพิ่มเงินบำเหน็จชราภาพเป็นเดือนละ 150 บาท ถ้าหากส่งเงินครบ 180 เดือน ให้เงินบำเหน็จอีก 10,000 บาท เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตร คนละ 200 บาท คราวละไม่เกิน 2 คน บุตรแรกเกิดแต่ไม่เกิน 6 ปีบริบูรณ์
นางอรุณี กรรมการประกันสังคม กล่าวต่อไปอีกว่า หากพระราชกฤษฎีกาทั้ง 2 ฉบับพร้อมทั้งกฎกระทรวงมีผลบังคับใช้แล้วนั้น จะส่งผลให้ผู้ประกันตนที่เป็นแรงงานนอกระบบ ซึ่งอยู่ในระบบประกันสังคมแล้วขณะนี้จำนวน 2 ล้านกว่าคน และแรงงานนอกระบบที่สนใจสมัครเข้าสู่ระบบประกันสังคมอีกจำนวนมากได้รับประโยชน์จากการเพิ่มสิทธิประโยชน์และเพิ่มทางเลือกอีกด้วย
อย่างไรก็ดี จึงขอเชิญชวนแรงงานนอกระบบที่สนใจสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 สามารถใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียวก็สมัครได้ และการจ่ายเงินสมทบ ก็มีความสะดวกสบาย จ่ายได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป รวมทั้งที่ทำการไปรษณีย์ ตู้เติมเงิน ที่กระจายไปตามหมู่บ้าน-ตำบลทั่วประเทศ ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกันตนในการเข้าถึงบริการของสำนักงานประกันสังคมได้อย่างครอบคลุมทั่วถึง