ส่องกำไร 'ยาคูลท์' นมเปรี้ยวอมตะ ในวันที่ประกาศเพิ่มสินค้าใหม่

เมื่อเร็ว ๆ นี้ บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตนมเปรี้ยวพร้อมดื่มยาคูลท์ ผู้นำตลาดนมเปรี้ยวพร้อมดื่มในประเทศไทย ประกาศเปิดตัวสินค้านมเปรี้ยวสูตรน้ำตาลน้อย ในชื่อ “ยาคูลท์ไลท์” หลังจากจำหน่ายสินค้านมเปรี้ยวสูตรดั้งเดิมมาเกือบ 50 ปี เพื่อเป็นอีกทางเลือกของคนรักสุขภาพ โดยจะจำหน่ายควบคู่ไปกับสูตรดั้งเดิม ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2561 นี้

หลังจาก ดร.มิโนรุ ชิโรต้า ประสบความสำเร็จในการค้นพบจุลินทรีย์กรดนมในลำไส้ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถทนต่อกรดและด่างในร่ายกายมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถมีชีวิตอยู่รอดในลำไส้ได้ นั่นก็คือ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ สายพันธุ์ ชิโรต้า หรือ จุลินทรีย์ชิโรต้า จึงได้ก่อกำเนิดการผลิตนมเปรี้ยว “ยาคูลท์” ขึ้นในปี พ.ศ. 2478

แล้วเมื่อนายประพันธ์ เหตระกูล เดินทางไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2496 มีโอกาสได้พิสูจน์กับตนเองว่า ยาคูลท์ที่มีจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรต้า มีประโยชน์ต่อระบบย่อยอาหารและลำไส้ เมื่อกลับมายังประเทศไทย จึงคิดที่จะนำยาคูลท์เข้ามาจำหน่าย จนได้ก่อตั้งบริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นในปี พ.ศ. 2513 และเริ่มจำหน่ายในปีถัดมา

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เชื่อแน่ว่าแทบไม่มีคนไทยคนใดไม่รู้จักนมเปรี้ยว "ยาคูลท์" เพราะนอกจากสรรพคุณที่กล่าวถึงไปแล้ว ที่โดดเด่นไม่แพ้กันก็คือ รูปร่างบรรจุภัณฑ์อันเป็นเอกลักษณ์และหน่วยขายตรงเคลื่อนที่ของตนเองที่มีชื่อเรียกติดปากคนไทยทั่วทุกหัวระแหงอย่าง "สาวยาคูลท์"

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันแนวโน้มการรักสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม ทั้งการออกกำลังกาย การควบคุมน้ำหนัก และที่สำคัญคือ การควบคุมการบริโภคอาหาร ซึ่งองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้รณรงค์เรื่องการลดการบริโภคน้ำตาลส่วนเกิน ยาคูลท์จึงตอบสนองความต้องการของลูกค้า ด้วยการนำเสนอ “ยาคูลท์ไลท์” ที่มีจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส คาเซอิ ชิโรต้าสายพันธุ์เดิม ในปริมาณขวดเท่าเดิม แต่ได้รับการพัฒนาให้มีปริมาณน้ำตาลเพียง 1.75% เท่านั้น

ก่อนที่ผู้บริโภคทั่วไปจะได้มีโอกาสลิ้มลอง 'ยาคูลท์ไลท์' ซึ่งบริษัทตั้งใจว่าจะเริ่มเปิดจำหน่ายคู่กับสูตรดั้งเดิมในวันที่ 1 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ Sanook! Money ขอนำผลประกอบการย้อนหลังของยาคูลท์มาให้ชมกัน

บริษัท ยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งเมื่อ ต.ค. 2513 ด้วยทุนจดทะเบียนแรกเริ่ม 30 ล้านบาท ก่อนที่เมื่อ พ.ย. 2533 จะเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 35 ล้านบาทมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีตัวเลขทางการเงินที่น่าสนใจดังนี้

ปี 60 รายได้รวม 2,370.2 ล้านบาท กำไร 309.4 ล้านบาท

ปี 59 รายได้รวม 2,349.5 ล้านบาท กำไร 154 ล้านบาท

ปี 58 รายได้รวม 2,233.2 ล้านบาท กำไร 160.5 ล้านบาท

ปี 57 รายได้รวม 2,222.1 ล้านบาท กำไร 114.2 ล้านบาท

ปี 56 รายได้รวม 2,215.6 ล้านบาท กำไร 60.7 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าในรอบ 5 ปีมานี้ รายได้ของยาคูลท์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.2 พันล้านบาท มีกำไรโตขึ้นทุกปี น่าสนใจเหลือเกินว่าการลุกขึ้นมาเพิ่มสินค้าใหม่อีก 1 ตัวในครั้งนี้ หลังจากใช้สินค้าเพียงตัวเดียวทำตลาดสร้างรายได้มาราว 47 ปี จะยิ่งเป็นไม้ค้ำถ่อให้รายได้และกำไรก้าวกระโดดได้มากกว่านี้หรือไม่ 

เห็นทีว่าคำตอบของเรื่องนี้อาจต้องคอยหมั่นถาม "สาวยาคูลท์" ดูซะแล้ว