สมใจคนอยากมีลูก! "ค่าฝากท้องและค่าคลอด" ลดหย่อนภาษีสูงสุด 6 หมื่นบาท

สมใจคนอยากมีลูก! "ค่าฝากท้องและค่าคลอด" ลดหย่อนภาษีสูงสุด 6 หมื่นบาท

สมใจคนอยากมีลูก! "ค่าฝากท้องและค่าคลอด" ลดหย่อนภาษีสูงสุด 6 หมื่นบาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

รมว.คลัง ลงนามผ่านกฎกระทรวง ยกเว้นภาษีค่าฝากครรภ์ และค่าคลอดบุตร สูงสุดไม่เกิน 6 หมื่นบาท มีผลย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค. 61

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงนามในกฎกระทรวง ฉบับที่ 338 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 135 ตอนที่ 44 ก แล้ว

หลักการและเหตุผลในการประกาศใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ ระบุว่า โดยที่ประเทศไทยมีอัตราการเกิดของประชากรลดลง ทำให้มีประชากรวัยแรงงานลดลง และอัตราส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้มีเงินได้มีบุตรเพิ่มมากขึ้น อันจะส่งผลให้โครงสร้างประชากรของประเทศมีความเหมาะสมกับการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต สมควรกำหนดให้เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสได้จ่ายเป็นค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรของตนตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินหกหมื่นบาท เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ จึงจำเป็นต้องออกกฎกระทรวงนี้

>> กระตุ้นคนมีลูกเพิ่ม รัฐช่วยลดหย่อนภาษีแถมค่าฝากครรภ์-ทำคลอด

>> "บอร์ดประกันสังคม" อนุมัติจ่ายค่าตรวจ-ฝากครรภ์เพิ่มอีก 1,000 บาท

ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าว ระบุว่า อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 20) พ.ศ. 2513 และมาตรา 42 (17) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 10) พ.ศ. 2496 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงไว้ ดังต่อไปนี้

ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็น (99) ของข้อ 2 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร

“(99) เงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสได้จ่ายเป็นค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรของตนตามจำนวนที่จ่ายจริงสำหรับการตั้งครรภ์แต่ละคราวแต่ไม่เกินหกหมื่นบาท หากการจ่ายค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรสำหรับการตั้งครรภ์แต่ละคราวมิได้จ่ายในปีภาษีเดียวกัน ให้ได้รับยกเว้นภาษีตามจำนวนที่จ่ายจริงในแต่ละปีภาษี แต่เมื่อรวมกันแล้วต้องไม่เกินหกหมื่นบาท ทั้งนี้ สำหรับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2561 เป็นต้นไป และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีประกาศกำหนด”

 

>> เลี้ยงลูกจนโตใช้เงินเท่าไหร่

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook