อีลอน มัสก์ จะลงทุนอะไรใน EEC ของบ้านเรา?

อีลอน มัสก์ จะลงทุนอะไรใน EEC ของบ้านเรา?

อีลอน มัสก์ จะลงทุนอะไรใน EEC ของบ้านเรา?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวน Elon Musk ลงทุนในประเทศไทย ในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) นั้น

หลายคนอาจสงสัยว่าแล้ว Elon Musk จะลงทุนอะไรใน EEC ล่ะ? Sanook! Money ได้รวบรวมข้อมูลคร่าวๆ มาฝากกัน

ตอนนี้ Elon Musk วัย 47 ปี มีบริษัทในมืออยู่ 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ SpaceX, Tesla Motors และ Boring Company ซึ่งแต่ละบริษัทของเขาไม่ธรรมดาทั้งนั้น

SpaceX: อพยพคน สู่ดาวอังคารในวันสิ้นโลก

Space Exploration Technologies Corporation หรือ SpaceX เป็นบริษัทเอกชนด้านการขนส่งทางอวกาศของสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมาย คือ ช่วยเหลือมนุษยชาติด้วยการอพยพไปอยู่บนดาวอังคาร และยังทำให้การเดินทางไปอวกาศมีราคาถูกลง โดยในปี 2017 บริษัท Space X ปล่อยจรวด Falcon 9 ได้สำเร็จ และกลายเป็นบริษัทแรกที่ประสบความสำเร็จในการส่งจรวดขับดันประเภทที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้
เมื่อต้นปี 2018 SpaceX ปล่อยจรวด Falcon Heavy ซึ่งเป็นจรวดที่ทรงพลังที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยพลังงานไอพ่น 5 ล้านปอนด์ สามารถบรรทุกของได้ถึง 1.41 แสนปอนด์ ที่สำคัญ SpaceX มีมูลค่ามากกว่า 2.1 หมื่นล้านเหรียญ

Tesla: ปฏิวัติรถยนต์ด้วยพลังงานไฟฟ้า

Tesla Motor เป็นบริษัทที่ผลิต-จำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ไฟฟ้า มีเป้าหมายคือ สร้างรถยนต์ไฟฟ้าในราคาที่ไม่แพง มีประสิทธิภาพ แถมช่วยลดปัญหามลภาวะบนโลก โดยในปี 2012 บริษัท Tesla ประสบความสำเร็จจากรถ Model S sedan ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็น 'รถยนต์แห่งปี' หรือ 'คอมพิวเตอร์ที่มีล้อ' ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำไม่ว่าจะเป็นอินเตอร์เน็ตแรง ระบบเซนเซอร์ที่ผู้ขับไม่ต้องแตะอะไรเลยก็สามารถสตาร์ตรถได้ สำหรับมูลค่าของ Tesla ตอนนี้อยู่ที่ 6 หมื่นล้านเหรียญ

Boring Company: ระบบขนส่งผ่านท่อ แก้ปัญหารถติดซ้ำซาก

Boring Company บริษัทขุดอุโมงค์สุดไฮเทค ช่วยแก้ปัญหารถติดโดยเฉพาะ ทำให้รถยนต์สามารถทำความเร็วได้ 200-240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ล่าสุด Elon Musk นำคอนเซ็ปต์ของ Hyperloop และ Loop มาประยุกต์เข้ากับโครงการขุดอุโมงค์ด้วย เป็นการขุดอุโมงค์ทำท่อให้รถวิ่งผ่านนั่นเอง
นอกจากนี้ Boring Company ยังทำ 'ปืนยิงไฟ' (Flamethrower) ที่เอาไว้ปราบซอมบี้ขึ้นมาจำหน่ายเพียง 2 หมื่นกระบอก และขายหมดภายใน 5 วัน ยอดขายอยู่ที่ราว 2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้ง 3 บริษัทในมือของ Elon Musk อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า, ระบบขนส่งและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หากกางแผน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC แล้ว เราพบว่า Elon Musk อาจลงทุนใน 2 กลุ่มอุตสาหกรรม คือ 

  • อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต
  • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ


เนื่องจากบริษัท Tesla ตอบโจทย์กับยานยนต์ไฟฟ้า หรือ Electric Vehicle (EV) โดยตรง รวมถึงอุปกรณ์ติดตั้งในตัวรถ EV ต้องใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเข้าไปด้วย

ลองคิดดูถ้า Elon Musk นำ Tesla Motor ลงทุนใน EEC ไม่แน่ไทยเราอาจจะได้ส่วนแบ่งจากมูลค่าของบริษัทที่มีอยู่ 6 หมื่นล้านเหรียญก็เป็นได้

นอกจากนี้ Elon Musk จะได้สิทธิประโยชน์จากการลงทุนใน EEC ด้วย ดังนี้

  1. ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนานสูงสุด 15 ปี
  2. ยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักร วัตถุดิบที่นำ เข้ามาผลิตเพื่อส่งออก และของที่นำเข้ามา เพื่อการวิจัยและพัฒนา
  3. เงินสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการลงทุน การวิจัย และพัฒนาการส่งเสริมนวัตกรรม หรือการพัฒนาบุคลากรเฉพาะด้านของกิจการในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
  4. อนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์ ที่ดินเพื่อประกอบกิจการ ที่ได้รับการส่งเสริม
  5. สิทธิ์การเช่าที่ดินราชพัสดุ ถึง 50 ปี และสามารถพิจารณา ต่ออายุอีก 49 ปี
  6. อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 17% ต่ำสุดในอาเซียน
  7. ระบบ One-stop Service
  8. วีซ่าทำงาน 5 ปี

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการคาดคะเนการลงทุนอุตสาหกรรมในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนจะลงทุนหรือไม่และลงทุนในอุตสาหกรรมกลุ่มไหน คงต้องรอคำตอบจาก Elon Musk เองแล้วล่ะ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook