กสิกรไทยวิเคราะห์มาตรการลดภาษีดีเซล
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้เผยแพร่บทวิเคราะห์ถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ขยายเวลา การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล ออกไปอีก 1 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ก.ค. 2555 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย.นี้ ว่า เนื่องจากว่าภาระหนี้ของกองทุนน้ำมัน ยังมีอยู่เกือบ 2 หมื่นล้านบาท จึงต้องการให้จัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเพื่อใช้หนี้เดิมให้หมดก่อน รวมทั้งอาจสำรองเงินในกองทุนน้ำมันอีกบางส่วน เพื่อรองรับความผันผวนราคาน้ำมันตลาดโลก และหลังจากนั้นคาดว่า ภาครัฐจะเพิ่มการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกครั้ง เพื่อเสริมรายได้ภาษีให้กับภาครัฐ แต่ก็จะกลับสู่อัตราเดิมที่ 5.31 บาท/ลิตร หรือไม่ ขึ้นอยู่กับทิศทางราคาน้ำมันในตลาดโลก โดยถ้าหากราคาน้ำมันโลกกลับมาพุ่งขึ้นอีกครั้ง ซึ่งมีความเป็นไปได้ในช่วงปลายปี ตามปัจจัยด้านฤดูกาลที่ความต้องการใช้น้ำมันโลก มักเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูหนาวของหลายประเทศ ทำให้การปรับเพิ่มภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันดีเซล ก็อาจต้องชะลอออกไปก่อน หรืออาจปรับเพิ่มขึ้นได้ไม่เท่ากับที่เคยจัดเก็บ ซึ่งย่อมจะมีนัยสำคัญต่อรายได้ของภาครัฐตามมา ทั้งนี้ นับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2554 ที่ภาครัฐมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล จาก 5.31 บาท/ลิตร ลงมาเหลือ 0.005 บาท/ลิตร เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาน้ำมันไม่ให้สูงขึ้น จนส่งผลกระทบต่อภาคประชาชนนั้น ภาครัฐจะสูญเสียรายได้จากภาษีสรรพสามิต นับตั้งแต่เริ่มมาตรการไปแล้วกว่า 1 แสนล้านบาท หรือ 9,000 ล้านบาท/เดือน