กิมเอ็งแนะลงทุนหุ้นปันผลช่วงปัญหายุโรป
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัญหาวิกฤติยุโรป ว่าขนาดของปัญหาใหญ่กว่าวิกฤติต้มยำกุ้ง แต่น้อยกว่ากรณีสหรัฐ แฮมเบอร์เกอร์ ขณะเดียวกัน จะแก้ปัญหายากกว่าทั้ง 2 กรณี ซึ่งวิธีแก้ปัญหาเมื่อประเทศถึงวิกฤติเศรษฐกิจประชาชนขาดกำลังซื้อ มี 2 วิธี คือ การอัดฉีด เพื่อให้มีกำลังซื้อ และลดปัญหาการว่างงาน และการพยายามสกัดไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม โดยเฉพาะการลุกลามที่ใหญ่และน่ากลัวคือ สถาบันการเงิน ซึ่งต้องรับว่า สถานการณ์จะอยู่ในสภาพนี้อีกนาน และวันนี้ ต้องติดตามสถานการณ์การประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปที่คาดว่า ยุโรป ยังคงพยายามประคองและการแก้ปัญหาคงต้องแก้อีกหลายรอบครั้งเดียวเอาไม่อยู่ ดังนั้น ถ้านักลงทุนอ่านสถานการณ์ด้วยความเข้าใจต้องทราบว่าตลาดอยู่ในสภาวะไม่แน่นอนผันผวน ระหว่างนี้ แนะนำให้เลือกลงทุนแบบระมัดระวัง ลงทุนหุ้นที่มีปันผลมาก และราคาหุ้นไม่ขยับมากนักนายมนตรี กล่าวถึง มาตรการรับมือวิกฤติยุโรปของรัฐบาล โดยเฉพาะการตั้งกองทุนพยุงหุ้นนั้น มองว่า เป็นมาตรการผ่อนคลายความตึงเครียด เพราะยังห่างไกลที่จำเป็นต้องมี เนื่องจากทางกลุ่มภูมิภาคเอเชีย มีความแข็งแรง สภาวะหนี้สาธารณะไม่สูงเหมือนกับกลุ่มยุโรป อีกทั้ง ภาครัฐและเอกชน ยังกู้น้อยกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาที่เหมาะสมของการตั้งกองทุนพยุงหุ้น น่าจะเป็นช่วงที่มีการส่งสัญญาณค่อนข้างชัดว่า ปัญหาค่อนข้างสุกงอมพอสมควรแล้ว และใกล้ถึงเวลาฟื้นตัว การตั้งเพื่อดันหุ้นไม่มีประโยชน์ แต่การตั้งเพื่อแก้ไขปัญหาตลาดหุ้นเกิดความตื่นตระหนกมากเกินไปก็คิดว่าเป็นไปได้ แต่หากภาวะตลาดหุ้นทรุดเกินไป ต้องออกแรงรับให้ตลาดหุ้นกลับมามีสภาพคล่อง มีสถานะที่ดีขึ้นคิดว่า น่าจะถึงตอนนี้ตั้งได้ แต่เชื่อว่า นักลงทุนไทย มีเงินพอสมควร มีเงินรับซื้ออยู่