OJBackpack อุปกรณ์คุณภาพ คู่ใจนักเดินทาง

เนื่องจากหลงใหลในเสน่ห์ของการเดินทาง พงศ์ศักดิ์ พิริยะสงวนพงศ์ จึงได้ร่วมลงทุนกับภรรยาเริ่มต้นขายสินค้าสำหรับการเดินทางผ่านช่องทางออนไลน์เป็นรายได้เสริม

จนปัจจุบัน www.ojbackpack.com ได้มีทั้งลูกค้าประจำและผู้ที่ได้รับคำแนะนำแวะเวียนเข้ามาอุดหนุนผ่านหน้าเว็บไซต์และแฟนเพจบน Facebook มาเป็นเวลานานถึง 7 ปี

ทั้งยังได้รับการการันตีความน่าเชื่อถือด้วยตำแหน่งผู้จัดจำหน่ายกระเป๋าสำหรับนักเดินทางแบรนด์ดัง Crumpler อย่างเป็นทางการอีกด้วย

 

พงศ์ศักดิ์ เล่าว่า OJBackpack เริ่มต้นเมื่อ 7 ปีที่แล้วบนเว็บไซต์แชร์ภาพออนไลน์อย่าง Multiply เป็นงานอดิเรกอยู่ประมาณ 3-4 ปี จึงเริ่มอิ่มตัวกับงานธนาคาร

และมองว่า ธุรกิจดังกล่าวน่าจะสามารถเติบโตได้มากขึ้นหากลงมือทำอย่างเต็มที่ จึงตัดสินใจเข้ามาทำธุรกิจดังกล่าวอย่างเต็มตัวพร้อมขยายช่องทางร้านค้าออนไลน์เพิ่มขึ้นทั้งบนเว็บไซต์, Facebook

และกระทู้ในเว็บบอร์ดเกี่ยวกับการเดินทางต่างๆ โดยเน้นสินค้าเกี่ยวกับการเดินทาง และเป้เดินป่าเป็นหลัก

"OJbackpack จะแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกคือ Crumpler แบรนด์กระเป๋าจากออสเตรเลีย ซึ่งค่อนข้างมีลูกค้าที่ติดตามอยู่ส่วนหนึ่ง จุดเด่นของ Crumpler คือเรื่องดีไซน์ สีสัน และวัสดุ Crumpler จะใช้ผ้า Cordura ที่มีความทนทานมาก

ซึ่งเราเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ทุกร้านที่ขายในไทยซึ่งเป็นของแท้ก็รับของจากเราหมด อีกครึ่งหนึ่งก็จะเป็นกลุ่มสินค้าเกี่ยวกับการเดินทาง อย่างเป้เดินทาง เป้แบ็คแพ็ค เป้โน้ตบุ๊ก กระเป๋าสะพายข้าง กระเป๋าส่งเอกสาร และเสื้อแจ็กเก็ต หรือพวกเสื้อยืด และอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ทั่วไป" พงศ์ศักดิ์ กล่าว

 

 

ปัจจุบัน ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านค้าจะเป็นกลุ่มผู้ชื่นชอบการเดินทางเป็นหลัก โดยมีทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในรูปแบบของการค้าปลีกและค้าส่งผ่านการนัดรับสินค้าตามเส้นทางรถไฟฟ้า หรือส่งไปรษณีย์เป็นหลัก

ซึ่งพงศ์ศักดิ์ ได้เล่าเพิ่มเติมว่า การสร้างเว็บฯ และหน้าเพจเพิ่มเติมของทางร้านต้องการนำเสนอตัวตนของ OJBackpack ให้ตรงใจกลุ่มนักเดินทางมากขึ้น โดยได้พยายามนำเสนอภาพและเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางในเว็บฯ

ขณะเดียวกันก็เปิดแฟนเพจทั้ง Crumpler Bangkok สำหรับแบรนด์กระเป๋า Crumpler และ OJBackpack สำหรับสินค้าทั่วไปอื่นๆ ด้วย

"ใน Facebook เราพยายามจะสื่อสารให้ลูกค้ารู้ อย่างลูกค้าประจำเขาจะรู้ว่าเราเที่ยวเก่ง และเราใช้ของๆ เราไปเที่ยวจริงๆ เขาก็จะรู้สึกเชื่อถือเรา มันไม่ใช่การสร้างภาพ แต่จริงๆ เราก็เป็นแบบนั้น

เราเที่ยวตลอดและเราก็ใช้สินค้าที่เราขายเพื่อที่จะให้เขารู้ว่า ถ้าคุณอยากได้คำแนะนำ คุณก็โทรเข้ามาได้ การอัพฯ เกี่ยวกับการเดินทางยังทำให้ลูกค้ารู้สึกเหมือนเราเป็นเพื่อนที่ชอบอะไรคล้ายๆ กัน

ตั้งแต่ตอนที่ขายใน Multiply ผมจะขึ้นว่า ถ้าเขาอยากปรึกษาเรื่องการเดินทาง เราเป็น Trip Advisor ให้เขาได้ บางคนพอให้คำแนะนำไป เวลาอยากซื้อของก็จะนึกถึงและโทรมาหาเรา" พงศ์ศักดิ์ เล่า

 

แต่ละช่องทางของ OJBackpack จะรองรับลูกค้าหลายกลุ่มแตกต่างกันไป โดยช่องทาง Facebook เป็นกลุ่ม 20-30 ต้นๆ ขณะที่ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่กว่ากลุ่มดังกล่าวก็จะใช้ช่องทางเว็บไซต์ อีเมล และโทรศัพท์มาสอบถาม

และถึงแม้ว่าทางแฟนเพจ Crumpler Bangkok จะเคยลงโฆษณาบน Facebook และได้รับการตอบรับในระดับหนึ่ง แต่ พงศ์ศักดิ์ ก็เห็นว่า ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวค่อนข้างแตกต่างจากลูกค้าที่เข้ามาเป็นสมาชิกแฟนเพจผ่านคำแนะนำจากลูกค้าประจำ

"จริงๆ การโฆษณาบน Facebook มีผลกับจำนวนคนบนแฟนเพจค่อนข้างมาก แต่การที่เขาจะซื้อหรือไม่มันขึ้นอยู่กับความเชื่อมั่น ระหว่างการที่เขาเห็นโฆษณาแล้วมาเป็นแฟนเพจเรากับการที่เขาได้รับคำแนะนำให้มาเจอเราแล้วคลิกเป็นแฟนเพจ ความเชื่อมั่นของคนที่เห็นโฆษณาแล้วเข้ามาก็จะน้อยกว่า ทำให้โอกาสการซื้อน้อยลงไปด้วย แต่ในระยะยาวทั้งสองกลุ่มก็จะมีโอกาสเป็นลูกค้าเราเหมือนกัน" พงศ์ศักดิ์ ให้ความเห็น

 

นอกจากเว็บไซต์และแฟนเพจแล้ว ทาง OJBackpack ยังมีกระทู้ปักหมุดทั้งในเว็บฯ เดินป่า ปั่นจักรยาน รถโฟร์วิลล์ และการใช้ชีวิตกลางแจ้งซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์

และยังได้จัดกิจกรรมการกุศลต่างๆ อย่างการประมูลกระเป๋า Crumpler สำหรับบริจาคเงินช่วงสึนามิหรือขายเสื้อเพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอีกด้วย

 

"เราใช้ความจริงใจกับลูกค้า การแนะนำของเราจะทำให้เขาได้ของที่อยากได้จริงๆ ให้ของที่ตรงกับความต้องการของเขาจริงๆ ไม่ใช่แนะนำเพื่อขายของได้ ถ้าของอะไรที่เราคิดว่าเหมาะกับเขาก็จะแนะนำเขาตรงๆ และคุยกันแบบพี่น้องมากกว่าจะเป็นลูกค้า

ลูกค้าส่วนใหญ่ตอนนี้ก็จะเป็นลูกค้าเดิมและฐานลูกค้าที่บอกต่อออกไปด้วย ก็มีเยอะที่ลูกค้าบอกว่า มีคนรู้จักซื้อไปและแนะนำมาอีกที ก็จะแนะนำกันไปเรื่อยๆ" พงศ์ศักดิ์ กล่าวถึงเคล็ดลับที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ

 

พงศ์ศักดิ์ ยังเสริมว่า ในอนาคตต้องการจะเปิดหน้าร้านเพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าหาร้าน และสามารถบริหารจัดการระบบได้ง่ายขึ้น รวมทั้งได้ฝากเคล็ดลับสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจว่า ควรเริ่มต้นจากสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบและสนใจ เพราะความรักจะเป็นแรงผลักดันในการทำธุรกิจที่ดี และช่วยให้เราสามารถหาสินค้า สำหรับตลาดและหากลุ่มลูกค้าได้ง่ายยิ่งขึ้น ขณะที่สื่อออนไลน์เองก็ช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แทบทุกกลุ่มนั่นเอง