“แบงก์พาณิชย์” หนาว! หลัง “แบงก์ชาติ” ชี้ “ค่าธรรมเนียมแบงก์” ฮวบลง 11.2%
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์สถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ระบุถึงผลการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 2 ปี 2561 มีกำไรสุทธิ 57,000 ล้านบาท ขยายตัว 15.9% ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยสินเชื่อเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายกันสำรองที่ลดลง
ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมธนาคาร ลดลงเป็นครั้งแรกที่ 11.2% เพราะได้รับผลกระทบจากการยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอน เนื่องจากผู้ใช้บริการหันมาโอนเงินทางโมบายแบงก์กิ้งเพิ่มขึ้น 90% หรือ 224 ล้านรายการ ขณะที่อัตราการโอนเงินผ่านสาขามีเพียง 170,000 รายการ ซึ่งถือว่าน้อยมาก
สำหรับสินเชื่อขยายตัว 5.4% เพิ่มขึ้นไตรมาสก่อนที่อยู่ 4.7% โดยขยายตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ยกเว้นสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่หดตัว 1.8% เนื่องจากธุรกิจขนาดใหญ่ระดมทุนผ่านตราสารหนี้และหุ้น
ซึ่ง ธปท.คาดว่าสินเชื่อในปี 2561 ขยายตัว 4-6% ตามที่คาดการณ์ไว้ ขณะที่คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล อยู่ที่ 2.93% ใกล้เคียงไตรมาสก่อนที่ 2.92% หากเศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่อง คาดว่าต้นปี 2562 เอ็นพีแอลมีทิศทางดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามเอ็นพีแอลสินเชื่อที่อยู่อาศัยและธุรกิจเอสเอ็มอีที่ยังเพิ่มขึ้น เนื่องจากดอกเบี้ยสินเชื่อที่อยู่อาศัยปรับขึ้น หลังหมดโปรโมชั่น 3 ปี และยังพบว่าเอ็นพีแอลที่อยู่อาศัยระดับ 3-5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นซึ่งเชื่อมโยงไปถึงสินเชื่อเอสเอ็มอี
นางสาวดารณี กล่าวว่า ต้นทุนดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นเป็นปัจจัยที่ต้องติดตาม ซึ่งจะกระทบกับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย และกลุ่มที่มีหนี้ครัวเรือนสูง แต่เชื่อว่าธนาคารพาณิชย์จะค่อยๆปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งไม่น่ามีผลกระทบต่อผู้กู้มากนัก
นอกจากนี้ ค่าธรรรมเนียมการโอนเงินที่จะลดลงได้อีก ขณะเดียวกันธนาคารพาณิชย์ยังต้องมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งจะทำให้ต้นทุนของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นได้