มารู้จัก LTF กับ RMF กันเถอะ
แน่นอนว่าวัตถุประสงค์การจัดตั้งของ LTF กับ RMF มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
โดย LTF จะสนับสนุนการลงทุนระยะยาวผ่านกองทุนรวมและส่งเสริมตลาดหุ้นไทย ส่วน RMF เป็นการสนับสนุนให้ออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณ
นโยบายของกองทุนก็แตกต่างกัน โดย LTF จะเน้นลงทุนในหุ้นเป็นหลักมีความเสี่ยงสูง ส่วน RMF ลงทุนหลากหลาย เช่น หุ้น ทอง พันธบัตร ความเสี่ยงมีหลายระดับ
สำหรับเงินลงทุนขั้นต่ำนั้น LTF ไม่มีกำหนดขั้นต่ำ แต่ห้ามซื้อเกิน 15% ของรายได้ทั้งปี และไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วน RMF ไม่น้อยกว่า 3% ของเงินได้ หรือไม่น้อยกว่า 5 พันบาท แต่ห้ามซื้อเกิน 15% ของรายได้ทั้งปี และหากรวมกับ กบข.แล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท
ระยะเวลาการลงทุน LTF จะต้องไม่น้อยกว่า 7 ปีปฏิทิน หรือแค่ 5 ปีเท่านั้นเอง ส่วน RMF ไม่น้อยกว่า 5 ปี (นับแบบวันชนวัน) และต้องอายุครบ 55 ปี ถึงขายคืนได้
สำหรับเงื่อนไขความต่อเนื่องนั้น LTF ไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี อยากลดหย่อยปีไหนก็ซื้อปีนั้น ส่วน RMF เริ่มซื้อแล้วต้องซื้อต่อเนื่องอย่างน้อยปีเว้นปี แต่ถ้าซื้อเกิน 2 ปี ให้รับปรึกษาเจ้าหน้าที่สรรพากร
สิทธิประโยชน์ทางภาษี LTF เงินซื้อหน่วยลงทุนใน LTF จะได้รับยกเว้นภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วน RMF เงินซื้อหน่วยลงทุนใน RMF จะได้รับยกเว้นภาษีตามที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 5 แสนบาท และหากรวมเงินสะสม กบข. แล้วต้องไม่เกิน 5 แสนบาท
ส่วนความเหมาะสมของกองทุนจะเหมาะกับใครนั้น เราขอสรุปให้สั้นๆดังนี้
LTF เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษี อยากลงทุนในหุ้นระยะยาวแต่ไม่มีความชาญและต้องรับความเสี่ยงได้ด้วย
RMF เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดหย่อนภาษีต้องการออมเงินไว้ใช้ยามเกษียณด้วยการลงทุนระยะยาวแต่ไม่มีความชำนาญ และต้องรับความเสี่ยงได้ด้วย