“ไทยสมายล์” เปิดกลยุทธ์มุ่งตลาด จีน-อินเดีย สู้ศึกโลว์คอสต์
นางเนตรนภางค์ ธีระวาส ประธานเจ้าหน้าที่สายการบริการลูกค้า สายการบินไทยสมายล์ ระบุว่า ปัจจุบันเส้นทางการบินไปประเทศอินเดียและจีนมีความต้องการในการเดินทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง และแข่งขันสูง โดยสายการบินไทยสมายล์ได้พัฒนาทั้งการให้บริการ เพื่อเป็นรองรับการเติบโต และตอบโจทย์การเดินทางของผู้โดยสาร โดนเน้นการให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service) ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริการบนเครื่องบิน (Inflight Service) เพื่อแข่งขันกับสายการบินต้นทุนต่ำ (Low cost Airlines) ที่จะเน้นเรื่องราคาเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันสายการบินไทยสมาลย์มีอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load Factor) เฉลี่ยอยู่ที่ 70-80% โดยมีเส้นทางบินในประเทศ 10 เส้นทาง และเส้นทางระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง สำหรับช่วงตารางบินฤดูหนาวนี้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – มีนาคม 2562 ไทยสมายล์เตรียมเปิดให้บริการในเส้นทางกรุงเทพฯ-พุทธคยา (อินเดีย), กรุงเทพฯ-ฮ่องกง, ภูเก็ต-ฮ่องกง รวมถึงการเพิ่มความถี่ในเส้นทางกรุงเทพฯ-อุดรธานีด้วย
ซึ่งเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา เส้นทางไปประเทศอินเดียของสายการบินไทยสมายล์ ที่ได้ปรับเมนูอาหารว่างอุ่นร้อนสำหรับมื้อเช้า (Hot Snack) และให้บริการระดับพรีเมี่ยมด้วยเมนูอาหารต้นตำรับจากเชฟผู้เชี่ยวชาญต้นตำรับ รวมทั้งสร้างบรรจุภัณฑ์ใหม่จากกระดาษ ลดการใช้พลาสติก ช่วยประหยัดพื้นที่ ทำให้สายการบินสามารถลดต้นทุนในด้านการให้บริการภาพรวมได้ 20-30%
อย่างไรก็ตาม ไทยสมายล์จะประเมินผลในเส้นทางอินเดีย 3 เดือน เพื่อเดินหน้าขยายการพัฒนานี้ไปสู่เส้นทางบินระหว่างประเทศอื่นๆ ต่อไป พร้อมยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าวนั้น ไม่กระทบการให้บริการของสายการบินฯ
อย่างไรก็ตาม เดือนพฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป สายการบินไทยสมายล์จะปรับเมนูอาหารว่างอุ่นร้อนสำหรับมื้อเช้าใหม่ทั้งหมด และเปลี่ยนให้เป็นเมนูอาหารนานาชาติที่หลากหลาย โดยเริ่มปรับเปลี่ยนเมนูอาหารมื้อเช้า สำหรับเที่ยวบินก่อนเวลา 9.30 น. ที่จะให้บริการกับผู้โดยสาร ชั้น Smile Class (ชั้นประหยัด) บนเที่ยวบินภายในประเทศ ด้วยเมนูใหม่รวม 24 เมนู ทั้งสไตล์ญี่ปุ่น เกาหลี ตะวันตก และไทย รวมทั้งเพิ่มเมนูอาหารสำหรับเส้นทางกรุงเทพฯ-นราธิวาส และ เชียงใหม่-ภูเก็ต อีก 22 เมนู ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศในระยะทางสั้น เส้นทาง เสียมราฐ พนมเปญ หลวงพระบาง ย่างกุ้ง ได้ออกแบบเมนูอาหารใหม่ทั้งหมดรวม 22 เมนูด้วย
นอกจากนี้ สายการบินไทยสมายล์นั้น เตรียมเปิดให้บริการ BYOD (Bring Your Own Device) หรือการนำอุปกรณ์ไอทีส่วนตัวมาใช้บนเครื่องบินในช่วงปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบระบบ การพิจารณารายละเอียดต่างๆ รวมถึงเลือกเส้นทางที่จะให้บริการด้วย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้โดยสารในระหว่างการเดินทาง โดยไทยสมายล์จะมีให้เลือกเนื้อหาให้เลือกมากมาย ทั้งการดูหนัง ฟังเพลง รวมถึง e-book เท่านั้น ซึ่งจะไม่สามารถเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ ได้
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ