เส้นทาง “ดอกมุราคามิ” สู่แบรนด์พรีเมียม

เส้นทาง “ดอกมุราคามิ” สู่แบรนด์พรีเมียม

เส้นทาง “ดอกมุราคามิ” สู่แบรนด์พรีเมียม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กลายเป็นกระแสโด่งดังในโลกสังคมออนไลน์ สำหรับเข็มกลัดดอกไม้หลากสี ที่วัยรุ่นฮิตติดกันทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ทำไมเจ้าดอกไม้สีรุ้งหน้าตายิ้มแฉ่งที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไร กลับมาราคาแพงล่ะ

Sanook! Money ได้รวบรวมเส้นทางของเจ้าดอกไม้สีรุ้งนี้มาฝากกัน

เจ้าดอกไม้หลากสีนี้ คือ มุราคามิ (MURAKAMI) เป็นผลงานการออกแบบของ ทาเคชิ มุราคามิ (Takashi Murakami) ศิลปินชาวญี่ปุ่นชื่อดังที่ได้รับการขนานนามว่า ศาสดาแห่งป๊อปอาร์ตในวงการออกแบบของญี่ปุ่น เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1962 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จบปริญญา 3 ใบ ทั้งปริญญาตรี-โท และเอก สาขาจิตรกรรมญี่ปุ่นแนวประเพณี จาก Tokyo National University of Fine Arts and Music

ผลงานการออกแบบของมุราคามิส่วนใหญ่ประยุกต์เอาภาพนิยายของญี่ปุ่นที่เรียกว่า มังงะ-แอนิเมชั่น ผสมผสานศิลปะตะวันตกกับวัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทำให้ผลงานแต่ละชิ้นของเขามีเอกลักษณ์ มีสีสันสดใส มีลักษณะแบบราบเป็นมิติเดียว ที่สำคัญไม่ใช่แค่ตัวชิ้นงานศิลปะเท่านั้นที่โดดเด่นอย่างเดียว แต่เสื้อผ้าหน้าผมของมุราคามิก็มีสีสันสดใสและฉูดฉาดบาดตาบาดใจด้วยเช่นกัน

มุราคามิ เคยร่วมออกแบบกับแบรนด์ดังมากมาย ซึ่งถ้าใครเป็นแฟนคลับหลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton) ต้องจำกันได้ ว่าเมื่อปี ค.ศ. 2003 มุราคามิเคยจับมือกับมาร์ก เจค็อบส์ (Marc Jacobs) ผลิตกระเป๋าโมโนแกรมหลากสี เช่น รูปดวงตาการ์ตูน, ลูกเชอร์รี่ และรูปการ์ตูนในสไตล์ที่เขาถนัด นับเป็นคอลเล็กชั่นที่ประสบความสำเร็จ และทำให้ชื่อของมุราคามิเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ต่อมาปี ค.ศ. 2007 มุราคามิร่วมกับแบรนด์ Supreme ออกแบบกระดานสเกตบอร์ดพิมพ์ลายการ์ตูนในสไตล์มุราคามิ และปี ค.ศ. 2008 ได้จับมือกับแบรนด์สัญชาติญญี่ปุ่นอย่าง Visvim ออกแบบรองเท้าผ้าใบใส่ลวดลายดอกไม้การ์ตูนซึ่งเป็น Signature เขาของลงไปด้วย

นอกจากนี้ เส้นทางการทำงานแฟชั่นของมุราคามินั้น มีมากมายครอบคลุมแทบทุกแบรนด์ ทั้ง Issey Miyake, Google, Kaws และนาฬิกาชื่อดัง Casio G-Shock

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า มุราคามิ ฝากผลงานการออกแบบบนเส้นทางแฟชั่นไว้เมื่อหลาย 10 ปีก่อน หากมองกลับมาที่บ้านเราจะเห็นเหล่าคนดังอย่าง โมบายล์ BNK48 หยิบมาใช้ติดตัว รวมถึงยูทูบเบอร์อย่าง หมิง ขั้วโลก ได้สำรวจการแต่งกายของวัยรุ่นในสยาม โดยพบว่าวัยรุ่นนิยมห้อย Murakami Flower ติดตัว ราคาอยู่ที่หลักพันบาท

คำถามคือ ทำไมเจ้า Murakami Flower ตัวเดียวถึงได้แพงอย่างนี้ละ ซึ่งเราได้ตรวจสอบข้อมูล Supreme Blog Store ระบุว่า MURAKAMI At Roppongi Hills. พบว่า ราคาขายตามป้ายที่ประเทศญี่ปุ่นอยู่ที่ 1,940 เยน หรือราว 650 บาท ขณะที่ราคาขายในไทยอยู่ที่ 1,200-1,700 บาท พร้อมระบุถึงสาเหตุที่ราคาขายในไทยสูงกว่าเพราะกระแสสังคม ส่งให้ให้ความต้องการของสินค้าเยอะขึ้น ทำให้ของขาดตลาด, ค่าภาษีนำเข้าในประเทศ ประมาณ 37%

>>  วิธีสังเกต "ดอกมุราคามิ" ของแท้ vs ของปลอม

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ

อัลบั้มภาพ 13 ภาพ ของ เส้นทาง “ดอกมุราคามิ” สู่แบรนด์พรีเมียม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook