สุดไฮเทค! สรรพากร-ศุลกากร จัดเก็บ “ภาษี” ผ่าน Big Date

สุดไฮเทค! สรรพากร-ศุลกากร จัดเก็บ “ภาษี” ผ่าน Big Date

สุดไฮเทค! สรรพากร-ศุลกากร จัดเก็บ “ภาษี” ผ่าน Big Date
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรมสรรพากรและกรมศุลกากร รองรับนโยบายของรัฐบาลในการบูรณาการข้อมูลขนาดใหญ่ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำมาวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์ในการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร ภายใต้กระแสโลกยุคดิจิทัล และสอดคล้องกับนโยบาย Thailand 4.0 ทำให้มีข้อมูลภาษีอยู่ในระบบ สร้างความโปร่งใส และอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนได้มากขึ้น

​นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เพื่อนำ Big Data จากเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในกระบวนการทำงาน หรือเรียกว่า Digital Transformation หวังเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการจัดเก็บภาษีอากร ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการและสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจ ให้มีศักยภาพในเวทีเศรษฐกิจระดับโลก  โดยการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งสรรพากรและกรมศุลกากร ที่มีการระบุรายชื่อผู้เสียภาษีนำเข้าและส่งออก  เพื่อแบ่งประเภทผู้เสียภาษีอย่างถูกต้อง และแบ่งกลุ่มประเภทมีความเสี่ยงต้องจับตาเป็นพิเศษ

ช่วยวางรากฐานประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีอากร ควบคู่กับการยกระดับการให้บริการและสนับสนุนผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง  สำหรับรายได้ภาษีในปี 61 คาดว่าเกินเป้าหมาย 1.86 ล้านล้านบาท และคาดว่าการจัดเก็บภาษีในปีงบประมาณ 2562 จะทำได้เพิ่มขึ้น

ด้านนายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า  ชี้เเจงว่า กรมศุลกากรถือเป็นหน้าด่านในการจัดเก็บภาษีนำเข้าเฉลี่ย 2 หมื่นตู้คอนเทนเนอร์ BTU ต่อวัน  เป็นยอดการจัดเก็บภาษีศุลกากรสัดส่วนร้อยละ 19 และอีกร้อยละ 81 เป็นการจัดเก็บให้กับภาษีให้กับหน่วยงานอื่น เช่นภาษีให้กับกรมสรรพากรถึงร้อยละ 60  ความร่วมมือในครั้งนี้ ทำให้การสืบค้าข้อมูลของผู้เสียภาษี ไม่เหวี่ยงแห่ หรือทำการสุ่มตรวจอีกต่อไป เนื่องจากการทำ Big Data จะทราบเส้นทางการเสียภาษีได้จากขั้นตอนการตรวจสอบในใบขนส่งสินค้าแต่ละประเภท เพื่อประเมินความเสี่ยงในการหลบเลี่ยงภาษีหรือการแอบลักลอบนำของเข้ามาขายในประเทศ

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook