รวม 5 เทคนิคการลงทุน "ทองคำ" ในแบบ Passive Income

นักลงทุนทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กต่างให้ความสำคัญกับการลงทุนในทองคำ เพราะปลอดภัย แต่ราคากลับไม่ได้คงที่เสมอไป ซึ่งราคาทองคำอยู่ที่ราว 960 ยูโรต่อออนซ์ แต่ปีที่ผ่านมาราคาทองขยับระหว่าง 924 – 1,030 ยูโร สาเหตุมาจากการเลือกตั้งของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ในสหรัฐฯ ซึ่งเราได้รวบรวม 5 เทคนิคการลงทุนทองคำดีๆมาฝากกัน

1.ลงทุนในทองคำแท่ง สามารถซื้อออนไลน์กันได้ง่ายๆ พร้อมกันจัดส่งถึงบ้าน หรือจะจัดตัวแทนเราไปรับก็ยังได้ ทองคำมีให้เลือกซื้อหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบทองคำแท่ง ไปกระทั่งแบบเหรียญ ที่สำคัญน้ำหนักก็ไม่เท่ากัน ดังนั้น นักลงทุนส่วนใหญ่จึงนิยมซื้อทองคำแท่งมากกว่า เพราะสามารถขายออกได้ง่าย เลือกเก็บไว้เอง หรือจะให้ผู้ขายเก็บให้โดยมีค่าธรรมเนียมในการรับฝากตามมูลค่าของทองคำที่เรามี ซึ่งผู้ขายส่วนใหญ่จะขายเกินราคา และซื้อจากเราในราคาที่ต่ำกว่า ฉะนั้น ควรเลือกซื้อจากร้านที่รู้จัก และเป็นกันเองจะดีที่สุด

2.การเลือกลงทุนในผู้ผลิตและจัดจำหน่าย เป็นตัวเลือกที่น่าลงทุนของทองคำ รวมไปถึงการลงทุนในบริษัทเหมืองแร่ต่างๆ โดยราคากองทุนเหล่านี้จะถูกผลักดันด้วยราคาของทองคำในตลาด โดยบางครั้งราคาอาจจะพุงทะลุเป้าจนน่าตกใจ แต่ถ้าเราสามารถจัดการมันได้ จะได้กำไรมหาศาลจากการลงทุนกลุ่มนี้

3.ซื้อขายกองทุนรวมทองคำ หากคิดว่าเราไม่สามารถเก็บรักษาทองคำแท่งไว้กับตัวเอง หรือไม่คิดว่าการฝากจะเป็นการคุ้มทุน การซื้อขายในกองทุนทองคำอาจจะเป็นคำตอบ ซึ่งประเทศไทยก็มีให้เลือกหลายอย่าง เช่น KF-HGOLD, K-Gold, TMBGold

4.ซื้อขายในกองทุน ETF เป็นการซื้อขายทองคำแบบออนไลน์ สามารถลงทุนได้โดยไม่ต้องเก็บทองคำไว้กับตัว ซื้อขายเพียงใช้ข้อมูลทางตัวเลข อัตราการซื้อขายขั้นต่ำอยู่ที่ 1 กรัม ซึ่งสามารถซื้อขายได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่ต้องออกไปไหน เพียงแค่ใช้มือถือ หรือคอมพิวเตอร์ก็สามารถซื้อขายได้แล้ว

5.การลงทุนใน Gold Future เป็นการลงทุนที่ได้กำไรมาก ด้วยต้นทุนที่ต่ำ ต่างจากการลงทุนในทองคำที่ต้องจ่ายเต็มจำนวนจึงจะได้ทองคำมาลงทุน Gold Future เป็นระบบทองคำแบบดิจิทัลที่ไม่มีการส่งมอบสินค้ากันจริง สามารถทำกำไรได้ 2 ทาง คือการซื้อและรอขายทำกำไร เมื่อราคาทองสูงขึ้น หรือขายออกแล้วซื้อกลับมา เมื่อราคาทองลดลง สามารถซื้อขายผ่านโทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต