ขุมทรัพย์ “เสี่ยวิชัย” แห่ง “คิง เพาเวอร์” หลังสิ้นชีวิตเหตุ ฮ.ตก
เปิดขุมทรัพย์ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ ของอังกฤษ หลังพบว่าเฮลิคอปเตอร์ของเขาตกหน้าสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดียม
กำลังเป็นข่าวช็อควงการฟุตบอลระดับโลกจากเหตุการณ์ที่เฮลิคอปเตอร์ของนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ และประธานสโมสร เลสเตอร์ซิตี้ เกิดอุบัติเหตุตกลงบริเวณข้างสนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ได้เสียชีวิตลงจากอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว
>> ปิดตำนาน "วิชัย ศรีวัฒนประภา" เจ้าของ "คิง เพาเวอร์-สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้" เสียชีวิตจากเหตุ ฮ.ตก
>> ด่วน! เลสเตอร์ ซิตี้ แถลงยืนยัน “เจ้าสัววิชัย ศรีวัฒนประภา” เสียชีวิตจากเหตุ ฮ.ตก
>> เปิดพอร์ตหุ้นพันล้าน "อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา" ทายาท "เจ้าสัววิชัย" แห่ง "คิง เพาเวอร์"
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา หรือเจ้าสัววิชัย เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีไทยที่รวยเป็นอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่งล่าสุดได้รับการจัดอันดับจาก Forbes นิตยสารธุรกิจและการเงินชื่อดังของสหรัฐ ให้เป็นมหาเศรษฐีไทยอันดับที่ 5 ของปี 2561 ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ 5.2 พันล้านเหรียญ หรือราว 1.68 แสนล้านบาท
เรามาดูกันว่าขุมทรัพย์ของ เจ้าสัวคิง เพาเวอร์ อยู่ที่ไหนแล้วมีอะไรบ้าง Sanook! Money ได้รวบรวมข้อมูลคร่าวๆ มาฝากกัน
จากการตรวจสอบกลุ่มธุรกิจคิง เพาเวอร์ เบื้องต้นพบว่า คิง เพาเวอร์มีบริษัทในเครือทั้งหมด 6 บริษัท ได้แก่
- คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ประกอบกิจการค้าปลีกปลอดภาษี ย่านถนนรางน้ำ, พัทยา และสมุทรปราการ
- คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ประกอบธุรกิจขายสินค้าปลอดภาษี ภายในสนามบินทั่วประเทศที่ดูแลโดยท่าอากาศยานไทย หรือ AOT
- คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี ประกอบกิจการขายสินค้าของที่ระลึกและสินค้าไทย ที่ดอนเมืองกับสุวรรณภูมิ
- คิง เพาเวอร์ สุวรรณภูมิ ประกอบธุรกิจบริหารจัดการพื้นที่เชิงพาณิชย์ทั้งหมดรวมทั้งปล่อยเช่าภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
- คิง เพาเวอร์ มาเก็ตติ้ง แอนด์ เมเนจเมนท์ ประกอบธุรกิจขายสินค้าปลอดอากรบนเครื่องบินให้กับการบินไทย ไทยสมายล์ ไทยแอร์เอเชีย และไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์
- คิง เพาเวอร์ โฮเทล แอนด์ เมเนจเมนท์ ประกอบธุรกิจโรงแรม พูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพ
โดยเราขอหยิบยกบริษัทในกลุ่มคิง เพาเวอร์ที่ทำรายได้ของปี 2560 มากที่สุด 2 บริษัท ได้แก่ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล และคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี
บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2538 โดยมีรายชื่อคณะกรรมการดังนี้
- นายสมบัตร เดชาพานิชกุล
- นายสุวรรณ ปัญญาภาส
- นางเอมอร ศรีวัฒนประภา
- นายวิชัย ศรีวัฒนประภา
- นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา
ดำเนินธุรกิจขายปลีกและร้านค้าปลอดภาษีอากรบริการจัดการ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลัง ดังนี้
- ปี 2558 รายได้ 42,443 ล้านบาท กำไร 5,575 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 50,884 ล้านบาท กำไร 5,292 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 56,151 ล้านบาท กำไร 3,944 ล้านบาท
บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (Duty Free ที่ AOT) จดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2539 โดยมีรายชื่อคณะกรรมการดังนี้
- นายวิชัย ศรีวัฒนประภา
- นายสุวรรณ ปัญญาภาส
- นางเอมอร ศรีวัฒนประภา
- นายสมบัตร เดชาพานิชกุล
- นายจุลจิตต์ บุญยเกตุ
ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากรให้บริการจุดส่งมอบสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานนานาชาติ ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท มีผลประกอบการย้อนหลังดังนี้
- ปี 2558 รายได้ 33,034 ล้านบาท กำไร 2,984 ล้านบาท
- ปี 2559 รายได้ 32,680 ล้านบาท กำไร 1,636 ล้านบาท
- ปี 2560 รายได้ 35,633 ล้านบาท กำไร 1,838 ล้านบาท
รวมรายได้ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาของ คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี อยู่ที่ 101,347 ล้านบาท ส่วนกำไรรวมตลอด 3 ปีอยู่ที่ 6,458 ล้านบาท
หากรวมรายได้ทั้ง 6 บริษัทในเครือของคิง เพาเวอร์ จะพบว่ารายได้เฉพาะปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 103,644 ล้านบาท กำไร 7,692 ล้านบาท
นอกจากนี้ เจ้าสัววิชัย ยังนั่งเป็นประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอังกฤษเมื่อฤดูกาล 2015-2016 อีกด้วย และให้การสนับสนุนทางการเงินกับสโมสรมาโดยตลอด ซึ่งปัจจุบันนิตยสาร Forbes ระบุว่า สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ปี 2018 มีมูลค่าราว 500 ล้านเหรียญ คิดเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 16,500 ล้านบาท และเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2560 เจ้าสัววิชัย ได้ซื้อสโมสรฟุตบอล เอาด์ เฮเวเลย์ เลอเวน (OHL) หรือเรียกสั้นๆ ว่า โอฮา เลอเฟิน และโอฮาเอล ซึ่งเป็นทีมในดิวิชั่น 2 ของเบลเยียมอีกด้วย
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ