“สรรพากร” เร่งคลอดกฎหมายอีเพย์เมนต์ เก็บ “ภาษี” ร้านค้าออนไลน์
กรมสรรพากร ดันกฎหมายอีเพย์เมนต์ หวังเพิ่มประสิทธิภาพจัดเก็บ-โปร่งใส คาดมีผลบังคับใช้ในรัฐบาลชุดนี้พร้อมเดินหน้ากฎหมายต้อนร้านออนไลน์เข้าระบบ ยันสร้างความเป็นธรรมและลดต้นทุนผู้ประกอบการ
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่..) พ.ศ. … รองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการพื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ หรือ อีเพย์เมนต์ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. คาดแล้วเสร็จและมีผลบังคับใช้ได้ทันภายในรัฐบาลชุดนี้ เพื่อให้การเก็บภาษีมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีถูกต้องมากขึ้น
สำหรับสาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว คือ ผู้เสียภาษีสามารถยื่นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงรายการหรือเอกสารเกี่ยวกับภาษีอากรสามารถกระทำโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ และกำหนดให้ สถาบันการเงินธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินของรัฐ และผู้ให้บริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ รายงานการทำธุรกรรมการเงินของลูกค้าให้กรมสรรพากรรับทราบ หากไม่ปฏิบัติตามปรับ 100,000 บาท และปรับอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาท
ทั้งนี้ กำหนดให้สถาบันการเงินต้องแจ้งข้อมูลที่เข้าข่ายเป็น ธุรกรรมพิเศษ ประกอบด้วย 1.การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 3,000 ครั้งต่อปี และ 2. การฝากหรือรับโอนเงินทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 200 ครั้ง และมียอดรวมของกันตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป
นายเอกนิติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ร่าง พ.ร.บ. อีเพย์เมนต์ เป็นการเก็บภาษีในประเทศ เป็นคนละส่วนกับ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากรว่าด้วยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (E-Business) ที่จัดเก็บจากบริษัทที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศ ซึ่งเป็นกฎหมายที่กรมสรรพากรให้ความสำคัญ และต้องการเร่งผลักดันให้บังคับใช้ให้ได้ ตามนโยบายรัฐบาล
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมาย คือ ร้านค้าออนไลน์ที่ยังไม่อยู่ในระบบภาษี ข้าราชการที่ทุจริตมีโอนเงินเข้าบัญชีของตัวเอง และธุรกิจสีเทาผิดกฎหมาย ซึ่งจะเห็นว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวไม่กระทบกับผู้เสียภาษีที่ถูกต้อง แต่การออกกฎหมายนี้จะทำให้ประเทศดีขึ้น เพราะจะมีการเสียภาษีให้ถูกต้องมากขึ้น ป้องกันการทุจริตของข้าราชการ และการค้าขายของผิดกฎหมายได้