ค่าแรง 300บาท ประเทศไทยเสียเปรียบ..จริงหรือ?
หลายคนบอกว่าจุดแข็งของรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" คือ ประกาศนโยบายอะไรไว้ ก็เดินหน้าหมด เร็วบ้าง ช้าบ้าง แต่เป้าหมายคือ ทำ ตามนโยบายที่หาเสียงไว้
ยกตัวอย่าง โครงการรับจำนำข้าวที่กำลังกลายเป็น "สงครามน้ำลาย" ในเวลานี้ หรือการแจกแท็บเล็ตเด็กนักเรียนชั้น ป.1 แม้จะยังแจกไม่ครบ แต่ก็เริ่ม ทยอยแล้ว
กระทั่งค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่นำร่องในกรุงเทพมหานครก่อน จังหวัดอื่นๆ ปรับขึ้น 40% เป้าหมายคือ 300 บาทเหมือนกันทั่วประเทศ โดยการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทนั้น มีทั้งมุมเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย
ฝ่ายไม่เห็นด้วยอ้างว่า การขึ้นค่า แรงขั้นต่ำ 300 บาท จะทำให้นักลงทุนย้าย ฐานหนีจากประเทศไทยไปยังประเทศอื่นที่ให้ค่าจ้างแรงงานถูกกว่า เช่น เวียดนาม อินโดนีเซีย หรือแม้กระทั่งกัมพูชา ส่วนฝ่ายที่สนับสนุนมองว่า นี่คือการ สร้างความเท่าเทียมกันในสังคม คนต่างจังหวัดไม่ต้องดิ้นรนเข้าทำงานในเมืองหลวง เนื่องจากได้ค่าแรงเท่ากัน
ประเด็นก็คือ การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ทำให้นักลงทุนหดหายจากประเทศไทยจริงหรือ หากมองจากตัวเลขการขอรับส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ ต้องบอกว่า ไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น
เพราะครึ่งปีที่ผ่านมา ยอดขอรับการ ส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทยสูงเกือบ 5 แสนล้านบาท มากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ และมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าทั้งปี 2555
ยอดขอรับส่งเสริมการลงทุนจะสูงกว่า 6.3 แสนล้านบาท ที่น่าสนใจอย่างยิ่งคือ ยอดขอรับส่ง เสริมการลงทุนเดือนมิถุนายน 2555 เดือน เดียว สูงถึง 1.04 แสนล้านบาท มีโครงการ เสนอชื่อขอรับการส่งเสริมมากถึง 251 โครงการ
เป็นสถานการณ์ที่ต้องยอมรับว่าสวน กระแสกับคำวิจารณ์ว่า การขอรับการส่งเสริมการลงทุนปีนี้จะซบเซา เพราะ ปัญหา 2 เด้ง
เด้ง 1 ควันหลงน้ำท่วมในปีที่ผ่าน มาและเด้ง 2 การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แต่เอาเข้าจริงกลับตรงกันข้าม นักลงทุนกลุ่มใหญ่อันดับ 1 ยังเป็นนักลงทุนจากญี่ปุ่นที่สนใจลงทุนในอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ขณะที่นักลงทุนจากสหภาพยุโรปก็แย้มไต๋ว่าจะขอเพิ่มการลงทุนในเมืองไทย ให้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไบเออร์ ซีเมนส์จากเยอรมนี หรือกลุ่มยางมิชลินจากฝรั่งเศสว่ากันว่า 3 ค่ายยักษ์ใหญ่จากยุโรปจะทุ่มเม็ดเงินลงทุนในเมืองไทยอีกไม่ต่ำกว่าหมื่นล้าน
ด้านทุนจีนก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน เตรียม พาเหรดเข้ามาลงทุนในกลุ่มพลังงานทดแทน โทรคมนาคม และลอจิสติกส์แม้กระทั่งกลุ่มทุนจากมาเลเซียก็เข้ามากว้านซื้อโรงงานอาหารของไทยหลายแห่ง หวังใช้กลยุทธ์ "ครัวโลก" ทำอาหาร ฮาลาลขายคนมุสลิมมิติแห่งค่าแรงจึงมิน่าจะใช่ตัวฉุดรั้งการลงทุน
หากจะมีผลก็คงมีผลกับสิงคโปร์มาก กว่า เพราะค่าแรงขั้นต่ำในสิงคโปร์สูงปรี๊ด ทิ้งกลุ่มอาเซียน ไม่เห็นฝุ่น คือ 61.7 เหรียญ สหรัฐต่อวัน คิดเป็นเงินไทยวันละกว่า 1,800 บาท สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำของไทย 6 เท่าตัว สูงขนาดนี้ยังมีนักลงทุนสนใจเข้าไปลงทุนในสิงคโปร์ เพราะอะไร? ก็เพราะปัจจัยทางโครงสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงนั่นเอง เพราะฉะนั้น! ถ้าไทยพัฒนาโครงสร้างเศรษฐกิจให้เติบโตได้ตามแผน ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท
>> เริ่ด !! ธุรกิจดารา ธุรกิจไฮโซ <<
>> รวมวิธี เป็นเศรษฐีเงินล้าน <<
>> ประชาชน ปลื้ม !! ยกโครงการ 30 บาท เป็นความสำเร็จของรัฐบาล <<
>> ว่างงานเพิ่มหมื่นราย หลังค่าแรง 300 <<
>> 8 ข้อควรรู้ ก่อนทำประกันชีวิต <<
>> 6 ข้อ ควรรู้ ก่อนซื้อบ้าน <<
>> รถคันแรก ซื้อยังไงให้คุ้มที่สุด <<