“ใบเตย เพลงที่มีงู” ค่าตัวใช่เล่น! โพสต์เดียวฟาด 100 เท่าค่าแรงขั้นต่ำ

ถือเป็นข่าวเขย่าวงการเน็ตไอดอลเลยทีเดียว เมื่อ นางสาวสุพัตรา บัวแก้ว หรือ “ใบเตย เพลงที่มีงู” ถูกตำรวจบุกรวบตัวฐานค้ายาไอซ์-ยาบ้า โดยยึดของกลางได้มากกว่า 10 ล้านบาท

>> สิ้นท่า "ใบเตย เพลงที่มีงูออกมา" โดนตำรวจจับร่วมมือแฟนค้ายารวยอู้ฟู่

ต้องบอกว่าก่อนว่า ใบเตย เพลงที่มีงู โด่งดังมากจากสื่อออนไลน์ที่มีคนถ่ายคลิปวิดีโอ ในขณะที่เจ้าตัวไปขอให้ดีเจเปิดเพลงที่มีงูออกมา พร้อมกับเต้นให้ดูจนมียอดวิวเหยียบล้านวิวจนเธอกลายเป็นคนดังเพียงชั่วข้ามคืนและยังกลายเป็นเน็ตไอดอลในพริบตาอีกด้วย แถมเจ้าตัวยังรับลงโฆษณาและรีวิวสินค้าอีกต่างหาก อย่างรู้หรือไม่ว่า ใบเตย เพลงที่มีงู มีรายได้จากการโพสต์รีวิวสินค้าอยู่ที่เท่าไหร่?

Sanook! Money ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณอธิษฐ์พัชร นิพิษฐาภัทร กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอแฟงห์ จำกัด และผู้เชี่ยวชาญด้าน Personal Brand ถึงเรื่องอัตราการจ้างบุคคลที่มีชื่อเสียงในการรีวิวผลิตภัณฑ์ลงสื่อโซเชียลมีเดียว่าเป็นอย่างไรบ้าง

โดยคุณอธิษฐ์พัชร ระบุว่า กลุ่มผู้มีชื่อเสียงหรือมีอิทธิพลในวงการสื่อโซเชียลมีเดียสามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มด้วยกัน ดังนี้

1. เซเลบริตี้ (Celebrity) คือ กลุ่มคนที่อยู่ในวงการบันเทิง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงที่มักจะคุ้นหน้ากันเป็นอย่างดี
2. บล็อกเกอร์ (Blogger) คือ กลุ่มคนที่มีความรู้ และเชี่ยวชาญเรื่องราวต่างๆ โดยนำเสนอผ่านสื่อออนไลน์
3. เน็ตไอดอล (Net Idol) คือ กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงจากกระแสสังคมในแง่ของความบันเทิง
4. Exclusive Influencer คือ กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงในแวดวงการบันเทิง สังคมไฮโซ หาตัวจับได้ยากมาก

โดยการจ้างกลุ่มคนทั้ง 4 กลุ่มนี้ก็จะมีความแตกต่างกันออกไป โดยอัตราค่าจ้างทั่วไปของคนที่มีชื่อเสียงเพื่อรีวิวสินค้า หรือลงโฆษณา ทั้ง Facebook , Instagram รวมถึงช่องทางต่างๆ ทางสื่อออนไลน์นั้นจะขึ้นอยู่กับยอดผู้ติดตาม โดยแบ่งออกได้ดังนี้

• ยอดผู้ติดตาม 100,000 รายขึ้นไป ค่าโพสต์ 35,000 บาทต่อครั้ง
• ยอดผู้ติดตาม 200,000 รายขึ้นไป ค่าโพสต์ 45,000 บาทต่อครั้ง
• ยอดผู้ติดตาม 500,000 รายขึ้นไป ค่าโพสต์ 50,000 บาทต่อครั้ง
• ยอดผู้ติดตาม 1,000,000 รายขึ้นไป ค่าโพสต์ 80,000 บาทต่อครั้ง

ซึ่งในเบื้องต้นอัตราค่าจ้างจะหักมากกว่า 10% ของยอดผู้ติดตามนั่นเอง ถือเป็นอัตราจ้างมาตรฐานที่ Agency จะนิยมใช้กัน ส่วนสินค้าหรือแม้กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อัตราการจ้างค่อนข้างสูงส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่ม Lifestyle และ Beauty

นอกจากนี้ การลงโฆษณาหรือรีวิวสินค้าในสื่อออนไลน์จะมีระยะเวลาในการโพสต์ลงด้วย  เช่น รีวิวสินค้า A โดยโพสต์ลงใน Instagram เป็นเวลา 3 วัน ค่าจ้างอยู่ที่ 1 แสนบาท จากนั้นก็จะลบโพสต์ดังกล่าวออกไป เป็นต้น

อีกทั้งยังรวมถึงรูปแบบในการลงทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ อีกด้วย ดังนั้น อัตราค่าจ้างจะไม่ได้ขึ้นอยู่กับยอดผู้ติดตามเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมไปถึงระยะเวลาในการโพสต์ รูปแบบการโพสต์ โดยจะต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงระหว่างผู้จ้างกับผู้ถูกจ้างด้วยเช่นกัน

ส่วนลักษณะในการลงโฆษณานั้น ทาง Agency จะดูว่ากลุ่มผู้มีชื่อเสียง (Influencer) เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ที่จะลงโฆษณาหรือไม่ และเมื่อลงโฆษณาแล้วมียอดผู้ชมมากน้อยแค่ไหน เพื่อที่จะได้นำมาต่อยอดทำการตลาดต่อไป

คุณอธิษฐ์พัชร ระบุว่า เมื่อ 2-3 ปีก่อน กลุ่มบล็อกเกอร์ มักจะได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความรู้ในการนำเสนอข้อมูลเชิงลึก แต่ปัจจุบันความนิยมนั้นได้ลดลงเพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่จะรับรู้ว่าการรีวิวผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเป็นการซื้อโฆษณา ทำให้ความน่าเชื่อถือลดลง

ปัจจุบัน กลุ่มผู้มีชื่อเสียงหลายคนต้องการที่จะพัฒนาให้กลายเป็น Exclusive Influencer เนื่องจากอัตราค่าจ้างในการโพสต์หรือรีวิวนั้นสูงกว่าอัตราค่าจ้างทั่วไป โดยคาดว่ามีมูลค่ามากกว่า 6 หลัก หากได้พูดหรือรีวิวก็จะมี Impact มากกว่ากลุ่มอื่นๆ และกลุ่มดังกล่าวจะไม่รับงานโฆษณาทั่วไป รวมถึงสินค้าดังกล่าวจะต้องมีคุณภาพจริงค่อนข้างมากอีกด้วย สังเกตได้จาก สู่ขวัญ บูลกุล ที่ส่วนใหญ่จะรับงานโฆษณาที่ลงจะเป็นกลุ่ม High-End ทั้งสิ้น

ในกรณีของนางสาวสุพัตรา บัวแก้ว หรือ ใบเตย เพลงที่มีงู ซึ่งเป็นเน็ตไอดอลที่มียอดผู้ติดตามมากถึง 193,000 ราย หากเทียบกับค่าจ้างในการลงโฆษณาบน Instagram ของเน็ตไอดอลนั้น จะพบว่า ใบเตย เพลงที่มีงู จัดอยู่ในเรตที่มียอดผู้ติดตาม 100,000 คนขึ้นไป ค่าโพสต์อยู่ที่ราว 35,000 บาทต่อครั้ง หรืออาจจะมากกว่านั้นตามข้อตกลงระหว่างผู้จ้างกับผู้ถูกจ้าง

หากเทียบกับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน จะพบว่า ใบเตย เพลงที่มีงู มีรายได้จากการรีวิวสินค้าต่อ 1 โพสต์มากกว่าค่าแรงขั้นต่ำกว่า 100 เท่าเลยทีเดียว

นี่แหละหนา…วิถีเน็ตไอดอล