กรมเชื้อเพลิงฯ เผย ไทยผลิตก๊าซได้สูงสุด
นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการปิโตรเลียม ที่มี นายณอคุณสิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ว่า สถานการณ์ด้านการจัดหาและพัฒนาปิโตรเลียม ในช่วงเดือน ก.ค. ปี 2555 ประเทศไทย มีอัตราการผลิตปิโตรเลียม เทียบเท่าน้ำมันดิบทั้งสิ้น 849,144 บาร์เรลต่อวัน หรือ คิดเป็นประมาณร้อยละ 43 ของความต้องการใช้ในเชิงพาณิชย์ของประเทศ ซึ่งก็นับว่า เป็นอัตรากำลังการผลิตสูงสุดของประเทศแล้วโดยแบ่งเป็นการผลิตก๊าซธรรมชาติ 3,532 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ก๊าซธรรมชาติเหลว 96,904 บาร์เรลต่อวัน น้ำมันดิบ 145,194 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้จะสามารถรักษากำลังการผลิตในระดับดังกล่าวไปได้อีก 5 ปีเท่านั้น หรือ ถึงปี 2560 ซึ่งหากไม่สามารถจัดหาแหล่งอื่นๆ มาเพิ่มเติมกำลังผลิตก๊าซธรรมชาติ จะเหลือเพียง 479 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน หลัง ปี 2575 ส่วนรายได้ค่าภาคหลวงปิโตรเลียมปีนี้ จะอยู่ที่ 70,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง เป็นปีที่ 2 หรือ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีก่อน ที่มีรายได้60,000 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดรายได้ค่าภาคหลวง ตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ค. อยู่ที่ 42,300 ล้านบาท นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการปิโตรเลียม ได้อนุมัติพื้นที่ผลิตปิโตรเลียมเพิ่มเติม จำนวน 2 พื้นที่ ก็คือ แหล่งดงมูล ของบริษัท อพิโก้ (โคราช) จำกัด ซึ่งอยู่ในแปลงสำรวจ L27/43 ซึ่งคาดว่า มีปริมาณสำรองก๊าซธรรมชาติ 96,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต เริ่มผลิตได้ในปี 2558 และได้คาดว่ากำลังการผลิตจริง จะอยู่ที่ประมาณ 14 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยใช้เงินลงทุนประมาณ 6,774 ล้านบาท ซึ่งทางรัฐบาลจะได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ประมาณ 3,095 ล้านบาท และแหล่งปะการังตะวันตก ของ บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ซี่งอยู่ในแปลงในทะเล แปลง B11 ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณสำรองก๊าซ ประมาณ 100,000 ล้านลูกบาศก์ฟุต เริ่มผลิตได้ในปี 2558 โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนโครงการนี้ ประมาณ 19,000 ล้านบาท และรัฐบาลได้รับประโยชน์ประมาณ 10,200 ล้านบาท