“เชฟไทย” เนื้อหอม! ต่างชาติขาดแคลนหนัก รุมจีบชวนทำงานกระหน่ำ
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประกอบการและแรงงานไทยที่ประกอบอาชีพด้านอาหารไทย ณ เมือง Hausach สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีว่า ปัจจุบันเยอรมนีมีร้านอาหารไทยกว่า 600 แห่ง และอาหารไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังพบว่าในต่างประเทศมีความต้องการในตำแหน่งพ่อครัว-แม่ครัวไปทำงานราว 4,000 คน
อย่างไรก็ตาม แรงงานไทยที่ทำงานในเยอรมนียังต้องการที่จะพัฒนาทักษะ โดยเฉพาะด้านภาษาเพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างถูกต้อง กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน มีความพร้อมจะขับเคลื่อนตามนโยบาย 3A ของกระทรวงในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยการสร้างแรงงานคุณภาพ (Super Worker)
โดยจัดให้มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานให้กับแรงงานไทยในต่างประเทศ โดยปีนี้วางเป้าดำเนินการจำนวน 200 คน ในสาขาที่มีความต้องการ ได้แก่ สาขาการประกอบอาหารไทย พนักงานนวดไทย สปาตะวันตก และไทยสัปปายะ
โดยก่อนการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในแต่ละสาขานั้นจะมีการให้ความรู้เพื่อเตรียมความพร้อม เช่น การให้ความรู้ด้านภาษา กฎหมายแรงงาน และการประกอบธุรกิจในเยอรมนี เป็นต้น
จากการติดตามผลผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ระดับ 1 สาขาการประกอบอาหารไทย พบว่าแรงงานไทยมีความก้าวหน้าในอาชีพ มีรายได้เพิ่มขึ้นกว่าเดือนละ 10,000 บาท
ด้านนายสุทธิ สุโกศล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า จำนวนแรงงานไทยที่ผ่านการทดสอบตั้งแต่ปี2554-2561 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,614 คน โดยปีนี้มีผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ประกอบอาหารไทยแล้ว 88 คน ประกอบด้วยการทดสอบฯ ในไต้หวันจำนวน 60 คน และเนเธอร์แลนด์อีก 28 คน นอกจากนี้ยังมีแผนจะไปทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติในประเทศเดนมาร์ก สเปน และญี่ปุ่นอีกด้วย
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ได้ร่วมหารือกับเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลใหญ่ ในประเด็นเกี่ยวกับโอกาสความก้าวหน้าในการทำงานในต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาทักษะให้กับผู้ประกอบกิจการร้านอาหารไทยและแรงงานไทยเพื่อให้มีทักษะฝีมือสูงขึ้น ซึ่งจะนำประเด็นเหล่านี้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานให้สอดรับกับความต้องการดังกล่าวต่อไป