ธุรกิจป้ายหาเสียง สุดปัง! โกยตังค์รับเลือกตั้ง 2562
สมรภูมิเลือกตั้งในปี 2562 เรียกว่าดุเดือดเลยก็ว่าได้ เพราะแต่ละพรรคการเมืองต่างชูนโยบายหาเสียงเพื่อมัดใจคนในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือที่ผู้สมัครพรรคการเมืองแต่ละพรรคใช้หาเสียงนั้นก็คือ “ป้ายหาเสียง” ที่ติดตามเสาไฟฟ้า และริมถนนต่างๆ เพื่อให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาจดจำได้ง่ายมากขึ้น
เรียกว่าธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากการทำป้ายหาเสียงเลือกตั้งในครั้งนี้ ก็คงหนีไม่พ้น “ธุรกิจทำป้ายหาเสียง” โดย Sanook! Money ได้มีโอกาสสัมภาษณ์กับนายอัศวิน โรมประเสริฐ ผู้จัดการ บริษัท ดีเจริญ แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจมานานกว่า 10 ปี และถือเป็นหนึ่งในบริษัททำป้ายโฆษณาหรือป้ายหาเสียงเลือกตั้ง 2562 ที่ได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ
นายอัศวิน ระบุว่า ผู้สมัครเลือกตั้งในปี 2562 มีทั้งสิ้น 10,000 คน อีกทั้งยังมีพรรคการเมืองมากกว่า 80 พรรค ทำการให้แข่งขันหาเสียงมีความคึกคักมากกว่าช่วงเลือกตั้งในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีจำนวนป้ายหาเสียงเลือกตั้งทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 3 ล้านแผ่น โดยผู้สมัคร 1 คนจะต้องมีป้ายอย่างน้อย 1-2 แผ่นป้ายใน 1 หน่วย และใน 1 เขตก็อาจจะมีมากกว่า 300 หน่วยหรือขึ้นอยู่กับพื้นที่ หากนำมาคำนวณเบื้องต้น จะพบว่า ผู้สมัคร 1 คนจะใช้แผ่นป้ายเฉลี่ยอยู่ที่ 200-300 แผ่นป้าย
ในส่วนของธุรกิจทำป้ายโฆษณาหรือป้ายหาเสียงของนายอัศวิน เริ่มมียอดออร์เดอร์มาตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา จนล่าสุดมียอดสั่งทำป้ายมากถึง 160,000 แผ่น โดยคาดว่าบริษัทฯจะมีรายได้จากการทำป้ายหาเสียงในช่วง 2-3 เดือนนี้อยู่ที่ราว 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 70-80
นายอัศวิน คาดการณ์ว่าจำนวนป้ายหาเสียงเลือกตั้ง 2562 เลือกตั้งทั่วประเทศจะอยู่ที่ 3 ล้านแผ่น จะช่วยทำให้มีเม็ดเงินสะพัดมากกถึง 1,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้กำหนดให้ผู้สมัคร 1 คนต้องใช้งบในการหาเสียงไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้มีหลายฝ่ายได้คาดการณ์ว่าผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งอาจจะใช้งบหาเสียงทางช่องทางต่างๆ โดยเฉลี่ย 1 ต่อ 1 ล้านบาท และคาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดมากกว่า 10,000 ล้านบาท
ดังนั้น หากคำนวณเบื้องต้นจะพบว่า ป้ายโฆษณาหรือป้ายหาเสียงเป็นสัดส่วน 10% ของธุรกิจหาเสียงทั้งหมด ถือว่าเป็นสัดส่วนที่ไม่น้อยเลยทีเดียว
มิน่าล่ะธุรกิจทำป้ายโฆษณาถึงได้เนื้อหอมนัก…
อัลบั้มภาพ 8 ภาพ